Last Updated on October 25, 2021
The Lion King เดอะไลอ้อนคิง
The Lion King เดอะไลอ้อนคิง เป็นภาพยนต์แอนิเมชันลำดับที่ 32 ของวอลดิสนีย์เรื่องราวเล่าถึงสิงโตหนุ่มซิมบ้า ผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากพ่อของเขามูซาฟา ผู้ที่ถูกสกาอาของเขาฆ่าและเนรเทศออกไปจากดินแดนทรนง หลังจากนั้นเรื่องราวได้ดำเนินไปและในที่สุดซิมบ้าก็ได้รู้ความจริงว่าสกาได้สมคบกับพวกไฮยีนาฆ่าพ่อจองเขาเพื่อชิงบังลังค์ ในที่สุดซิมบ้าก็ได้ล้างแค้นให้พ่อที่ถูกฆ่าตายโดยอาของเขาสำเร็จ (พล๊อตเรื่องยังกับหนังจีนกำลังภายในเละแฮะ..) และขึ้นปกครองสัตว์บนดินแดนทรนง
“The greatest adventure of all is finding our place in the circle of life.”―Tagline
เนื้อเรื่องย่อ (สปอยยับ) The Lion King เดอะไลอ้อนคิง
สิงโตเจ้าป่าเดอะไลอ้อนคิงอยู่ที่ทุ่งหญ้าแห่งแอฟริกา ในดินแดนที่ชื่อว่า ดินแดนทรนง (Pride Land) ที่ซึ่งสิงโตเจ้าป่าปกครองสัตว์อื่นเยี่ยงราชา
เรื่องราวเปิดมาโดย ราฟิกี(Rafiki) หมอผีลิงแมนดริล ทำพิธีเจิมให้ลูกสิงโตเกิดใหม่ ซิมบ้า (Simba) ซึ่งเป็นลูกของเจ้าป่ามูซาฟา (Musafa) และ ซาลาบี (Salabi) ท่ามกลางการรวมตัวกันของเหล่าสรรพสัตว์ ณ ผาทรนง ท่ามกลางความยินดีของสัตว์ทั้งปวง สกา (Scar) ผู้เป็นสิงโตน้องชายของมูซาฟาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมพิธีเพราะเขารู้แก่ใจดีว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์ในบัลลังก์เจ้าป่าอีกต่อไป เนื่องจากมูซาฟาจะสือต่อตำแหน่งเจ้าป่าให้ซิมบ้านั่นเอง มูซาฟารู้เข้าดังนั้นก็มองแรงสกาที่ไม่ยอมเข้าร่วมพิธีและสำทับว่าอย่าหันหลังให้เขาเพราะเปรียบเสมือนการท้าทายและลองดี สกาตอบกลับอย่างประชดประชันว่า ข้าไม่คิดฝันจะทำเยี่ยงนั้นเพราะข้าสู้ความแข็งแกร่งของท่านไม่ได้ และก็เดินจากไป
หลายปีต่อมามูซาฟา ก็ได้แสดงขอบเขตของดินแดนทรนง และห้ามไม่ให้ไปในหุบเขาที่แดดส่องไม่ถึง และอธิบายถึงหน้าที่ในการปกครองสัตว์และ วัฏจักรแห่งชีวิต (Circle of life) ซึ่งเชื่อมโยงบรรดาทุกชีวิตเข้าไว้ด้วยกัน และให้เคารพทุกชีวิตให้ล่าเพื่อดำรงอยู่เท่านั้น ในขณะเดียวกันสกาวางแผนชั่วร้ายที่จะกำลัดสองพ่อลูก มูซาฟา และ ซิมบ้า และเมื่อนั้นเขาจะผงาดเป็นเจ้าป่า เขาหลอกซิมบ้า และเพื่อนซี้สิงโตสาวน้อยนาลา (Nala) ให้เข้าไปในสุสานช้างต้องห้าม ที่ซึ่งเจ้าสิงโตทั้งสองถูกไล่ต้อนด้วยไฮยีนาสมุนของสกา ชื่อ เชนซี (Shenzi) บันไซ (Banzai) และ เอ็ด (Ed) มูซาฟาได้รับแจ้งเรื่องจากราชเลขาธิการซาซู (Zazu) ก็แล่นไปช่วยโดยด่วน ถึงแม้จะผิดหวังในตัวซิมบ้าที่ขัดคำสั่ง มูซาฟาก็ยังให้อภัยและอธิบายว่า ราชาเจ้าป่าผู้ล่วงลับในอดีตเฝ้ามองจากฟากฟ้าโดยการเป็นดวงดาว และซักวันหนึ่งเขาก็จะเฝ้ามองซิมบ้าจากฟากฟ้าเช่นเดียวกัน
หลังจากคืนนั้นสกา ก็ได้บอกเจ้าไฮยีน่า ให้ภักดีต่อมันจะเป็นราชาองค์ต่อไป และไฮยีน่าจะไม่หิวโหยอีกต่อไปเพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งมันในการสังหารมูซาฟาและซิมบ้า มันได้ซ่องสุมกองกำลังไฮยีน่า และเป็นอีกครั้งที่มันล่อลวงซิมบ้าไปที่ช่องเขาเพื่อที่จะดูเซอร์ไพร์จากมูฟาซา หลังจากหลอกล่อเจ้าซิมบ้าสำเร็จตามแผนแล้ว มันก็ได้ส่งซิกให้พวกไฮยีนาต้อนฝูงวิลเดอบีทส์ ให้แตกฝูงแต่ลงมาเหยียบซิมบ้าทางช่องเขา มูซาฟารีบวิ่งมาช่วยซิมบ้าทันที เขาช่วยลูกชายของเข้าได้ แต่ทว่าตัวของเขาเองนั้นพลัดตกจากหน้าผาและโดนฝูงวิลเดอร์บีสต์เหยียบตาย ด้วยน้ำมือของสกา
สกาได้โทษซิมบ้าว่า พ่อของเขาตายเป็นเพราะซิมบ้าและต้องรับผิดชอบการตายนั้น และบอกให้ซิมบ้าหนีไปจากดินแดนทรนงและอย่ากลับมาอีก หลังจากนั้นสกาได้สั่งให้ไฮยีนาตามไปฆ่าเจ้าลูกสิงโตซะ แต่ยังเคราะห์ดีที่ซิมบ้าหนีไปได้เพราะเข้าไปในดงหนาม ก่อนจากมันได้ตะโกนขู่ว่าถ้าเจอหน้าอีกจะฆ่าให้เรียบ คืนนั้นที่หินทรนง สกาแจ้งข่าวร้ายแก่ซาลาบี นาลา และเหล่าสิงโตว่า มูซาฟา และซิมบ้าได้ตายจากการโดนฝูงวิลเดอบีสต์เหยียบแล้ว และเขาผู้มีเชื้อสายใกล้ชิดราชาที่สุด สมควรจะได้เป็นราชาองค์ต่อไป จากนั้นก็ทำตามคำมั่นคือให้ไฮยีนาเข้ามาอยู่ในดินแดนทรนงได้
ซิมบ้าผู้เหนื่อยอ่อนจากการเดินทางในทะเลทรายและล้มลงสิ้นสติ เขาได้รับการช่วยเหลือจากทีโมน (Timon) และพุมบ้า (Pumbaa) คู่หู หมูป่า-เมียร์แคท ผู้ซึ่งยึดมันในหลักการ จะกังวลไปทำไม ปล่อยมันไปหนะสุขแท้ “Hakuna Matata” เมื่อซิมบ้าเริ่มโตเป็นหนุ่มเขาก็ได้ช่วงเหลือเจ้าสองตัวนั่นจากคมเขี้ยวสิงโตสาวผู้หิวโหยนาล่า ซิมบ้าพานาล่าไปเที่ยวบ้านใหม่และดูเหมือนทั้งสองจะตกหลุมรักกันและกัน นาล่าได้บอกกับซิมบ้าว่า สกามันปกครองดินแดนทรนงเยี่ยงทรราชย์และบัดนั้นดินแดนนั้นก็เสื่อมโทรมลงทุกที เขาขอให้ซิมบ้าหวนกลับไปทวงบังลังค์เจ้าป่าคืน หลังจากได้รับคำแนะนำของราฟิกี และมูซาฟาผู้เฝ้ามองบนฟากฟ้า เขาก็ได้ตัวสินใจหวนกลับแดนทรนงเพื่อทวงคืนสิทธิ์ พร้อมนาลา พุมบ้า และทีโมน
เมื่อกลับมาถึงหินทรนง ซิมบ้าได้เห็นสภาพอันน่าอดสูของดินแดนทรนง ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสวนสวรรค์แต่บัดนี้กลับกลายเป็นดินแดนแห่งความตายอันรกร้าง เป็นเพราะว่ามีการล่าเกินความจำเป็นของสัตว์ผู้ล่า ทำให้ดินแดนแห่งนี้เกิดความอดอยากหิวโหย หลังจากได้เห็นสกาจู่โจมแม่ของเขา ซิมบ้าประกาศทวงบังลังก์คืนทันที เขาเผชิญหน้ากับสกา แต่สกายังย้ำแผลใจเรื่องที่ซิมบ้าต้องรับผิดชอบการตายของพ่อของเขา และไล่ต้อนไปจนถึงหน้าผาของหินทรนง บัดนั้น(ตามสไตล์กำลังจะเข้าไคลแม็ก) ฟ้าได้ผ่าลงมาทำให้เกิดไฟป่าเบื้องล่างของหน้าผา ซิมบ้ากำลังจะตกหน้าผา ฉากเดียวกันกับพ่อของเขาหวนคืนมา ก่อนที่มันจะตายสกาได้กระซิบเล่าความจริงให้ซิมบ้าฟังเอาบุญ ว่ามันเองหนะแหละที่เป็นคนฆ่ามูซาฟา คดีพลิกซิมบ้าโกรธจัด เหวี่ยงตัวขึ้นมาจากผาและตบสกาคว่ำ บอกให้สกายอมรับสารภาพซะ สกาก็เฉไฉไปโทษไปว่าเป็นความผิดพวกไฮยีนา ไฮยีน่าได้ฟังแล้วก็สิ้นศรัทธาขู่สกากลับ ซิมบ้าได้ออกคำสั่งให้สกาหนีออกไปจากแดนทรนง เหมือนกับที่สกาเคยสั่งเขา สกาทำทีว่าจะหนีไปแต่พอสบโอกาสกลับเข้าจู่โจมซิมบ้า ซิมบ้าเข้าฟัดพลวันพอได้จังหวะพลันถีบสกาตกผาไป สกาโดนฝูงไฮยีนาที่โกรธจัดการ ผลการต่อสู้ปรากฏ ชัยชนะตกเป็นของสิงโตหนุ่ม
ณ บัดนี้สิงโตได้ขับไล่พวกไฮยีนาออกไปจากดินแดนทรนง และได้ทวงบังลังค์ราชาคืนมา ดินแดนแห่งนี้ก็ได้กลับมาเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ท้ายสุดราฟิกีได้อุ้มชูเจ้าสิงโตน้อยเหนือหินทรนง ซึ่งเป็นลูกของซิมบ้าและนาล่า ดังเช่นวัฏจักรแห่งชีวิต และหนังก็ได้จบลง
ตัวละครใน Lion King มีใครกันบ้าง
ซิมบ้า (Simba) พระเอกของเรื่องเดอะไลอ้อนคิง
ซิมบ้า (Simba) เป็นพระเอกของเรื่องเดอะไลอ้อนคิง (The Lion King) เขาเป็นลูกชายของมูฟาซาผู้ซึ่งถูกกำหนดให้ปกครองแดนทรนง (Pride Lands) ในฐานะกษัตริย์ เมื่อมูฟาซาถูกฆ่าตาย ซิมบ้าถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุและถูกเนรเทศออกจากดินแดน เขาพบที่หลบภัยในโอเอซิสกลางป่าและได้เจอกับเพื่อนสนิทของเขาที่เป็นหมูป่าชื่อว่า พุมบ้า และเมียร์แคทที่ชื่อว่า ทีโมน หลังจากที่เขาจากออกมา แดนทรนงตกอยู่ในความระส่ำระสาย เมื่ออาณาจักรตกอยู่ในอันตราย ซิมบ้าจึงถูกบีบให้ต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันทุกข์ยากของเขาเพ่อเข้ามาแทนที่ใน “Circle of Life” เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นซิมบ้าได้แต่งงานกับเพื่อนในวัยเด็กที่ดีที่สุดของเขาที่ชื่อว่านาลา (Nala) และทั้งสองมีลูกด้วยกัน คือ Kiara, Kion และ Kopa (บุตรบุญธรรม)
ซิมบ้าตอนแรกเกิดตัวเล็กมากและมีศีรษะโต เขามีจุดบนหัวและลำตัวเหมือนสิงโตแรกเกิดทั่วไป ซิมบ้าตอนยังเด็กมีขนสีน้ำตาลทอง โดยมีสีครีมอ่อนที่ท้อง ปาก และอุ้งเท้า เขามีดวงตากลมโตสดใส มีม่านตาสีแดง และตาขาวเป็นสีเหลือง นอกจากนี้เขายังมีจมูกสีชมพูอ่อน และมีหนวดสีดำสี่เส้นที่ด้านข้างของปาก และด้านในของหูของเขามีสีน้ำตาลอ่อนและตัดขอบด้วยสีดำ ซิมบ้าน้อยมีขนเป็นกระจุกเล็กๆ บนศีรษะและมีหางสั้นเป็นพวง เขามีสัดส่วนที่ค่อนข้างแข็งแรงเลยทีเดียวสำหรับสิงโตเด็ก
พอโตขึ้นเป็นวัยรุ่น ซิมบ้าก็ยังคงมีรูปร่างหน้าตาเหมือนตอนเด็กๆ อยู่มาก แต่สีขนมีความสว่างมากกว่า เขามีแผงคอสีส้มอมแดงขึ้นที่ด้านบนของศีรษะและบางส่วนที่คอ นี่เป็นช่วงเริ่มต้นของแผงคอของเขาที่โตขึ้น นอกจากนี้เขายังมีสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดบนร่างกายเช่นจุดสีน้ำตาลเหนือจมูก
เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ซิมบ้าจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมากและร่างกายของเขามีกล้ามเนื้อ แผงคอสีน้ำตาลของเขาเติบโตเต็มที่แล้ว และครอบคลุมทั้งส่วนคอ ส่วนหลัง และหูของเขาแทบจะมองไม่เห็น ดวงตาของซิมบ้ามีขนาดเล็กลงเมื่อเทียบกับขนาดศีรษะของเขาและเป็นรูปไข่มากกว่า
ในตอนเด็กนั้น ซิมบ้าเป็นเด็กที่ชอบการผจญภัย อยากรู้อยากเห็น เขาประทับใจและชื่นชมมูฟาซาพ่อของเขาเป็นอย่างมาก และปรารถนาที่จะได้เป็นผู้ปกครองที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับพ่อ ในวัยเด็กเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเรียนรู้วิถีแห่งราชา อย่างไรก็ตามด้วยพลังและความภาคภูมิใจในตัวเองทำให้อัตตาของเขาสูงขึ้น ซึ่งนั่นทำให้เขาเย่อหยิ่งและโอ้อวดต่อซาซูและสการ์ และมันได้นำไปสู่สถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อมุมมองของเขาที่มีต่อมูฟาซาทำให้เขาเชื่อว่าการเป็นกษัตริย์หมายถึงการไม่เกรงกลัวและมองหาอันตรายที่ไม่จำเป็นเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าผู้มีอำนาจะเป็นอย่างไร สิ่งนี้เข้าทางแผนการของสการ์ อย่างไรก็ตามซิมบ้าได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของเขาในที่สุดหลังจากการเสียชีวิตของมูฟาซาและทำให้เขาได้ถูกขับไล่ออกจากดินแดน
เมื่อโตขึ้น บุคลิกภาพของซิมบ้าได้เปลี่ยนไป เขามีความกลัวเกิดขึ้นซึ่งเป็นโดยตรงจากการเสียชีวิตของมูฟาซาบิดาของเขา ซิมบ้าคิดว่าการสิ้นพระชนม์ของบิดาเป็นความผิดของเขา ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่คู่วรกับการบัลลังก์และการปกครองดินแดนทรนง ซิมบ้ามีความไม่มั่นใจและขาดความภาคภูมิใจในตนเองและไม่อยากเผชิญหน้ากับอดีตที่ขมขื่น จนกระทั่งซิมบ้าได้รับคำแนหะนำจากราฟิกิ ลิงแมนดริลผู้ชาญฉลาด ซึ่งทำให้ซิมบ้าเรียนรู้ว่าอดีตนั้นสำคัญและควรถูกมองว่าเป็นการเรียนรู้จากความผิดพลาด จนกระทั่งซิมบ้าได้รู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของพ่อทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
ตอนนี้ในฐานะที่ซิมบ้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เป็นราชาแห่งแดนทรนง พร้อมด้วยครอบครัวอันเป็นที่รัก ซิมบ้าแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ปกครองที่ฉลาด และเป็นที่เคารพนับถือเช่นเดียวกับบิดาของเขามูฟาซา อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าป่า แต่ซิมบ้าก็รู้ดีว่าเขาต้องเคารถประเพณีของสัตว์อื่นๆ ด้วย
Fun Fact เกียวกับซิมบ้า
- ซิมบ้า (Simba) ในภาษาสวาฮิลีแปลว่า “สิงโต” ดังนั้นเขาจึงได้รับการตั้งชื่อตามสายพันธ์ของเขาเอง
- ที่น่าสนใจคือชื่อลูกๆ ของซิมบ้าและนาลา เริ่มต้นด้วยตัวอักษร “K” ทั้งหมด (Kopa, Kiara, Kion)
- ในบางแนวตอน ซิมบ้าจะมีดวงตาสีฟ้า
- ขนแผงคอของซิมบ้าได้รับแรงบันดาลใจจากผมของ Jon Bon Jovi
- ซิมบ้ามีปัญหาในการพูดภาษาสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะช้าง
- หากคุณมองซิมบ้าอย่างใกล้ชิด บางครั้งเขาจะมีหนวดและบางครั้งก็ไม่มีหนวด
นาลา (Nala) สิงโตสาวคู่ใจของซิมบ้า
นาลาเป็นสิงโตสาว เธอมีขนสีครีม และมีดวงตาสีฟ้าคราม ในวัยเด็กเธอมีจมูกสีชมพู แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจมูกของเธอเป็นสีน้ำตาล และด้านในหูและขนกระจุกเล้กๆ ที่หางเป็นสีแทน เมื่อนาลาโตขึ้นและได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีเธอยังคงมีลักษณะคล้ายกับแม่ของเธอ ในเวอร์ชั่นรีเมคทั้งตอนเด็กและตอนโตนาลามีลักษณะคล้ายสิงโตในชีวิตจริงและมีดวงตาสีเขียว
ในวัยเด็ก นาลาเป็นที่รู้จักกันดีในด้านการปกป้องความสำเร็จของตัวเอง แม้ว่าบางครั้งซิมบ้าจะอ้างว่าความคิดของเธอเป็นของเขา นาลามีความฉลาดและเข้มแข็ง อย่างไรก็ตามเธอเป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจซิมบ้าและเธอใจดีกับเขามาก แม้ว่าเขาจะทำผิดพลาด ไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม เธอก็ยังคงรักษามิตรภาพไว้และเธอเสียใจอย่างหนักเมื่อเขาต้องตาย
เมื่อนาลาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เธอมีความรับผิดชอบและพากเพียร ช่วงที่ดินแดนย่ำแย่เมื่อถูกปกครองโดยสการ์ทำให้เธอตระหนักถึงความสำคัญของความรับผิดชอบ เธอได้เห็นว่าซิมบ้าขาดความสนใจในดินแดนทรนงหลังจากที่ถูกเนรเทศออกมา เธอมักจะพูดกับเขาโดยใช้เหตุผลที่หนักแน่นและแน่วแน่ในความเชื่อมั่นของเธอ นาลาเป็นสิงโตที่นำซิมบ้ากลับมาที่ดินแดนทรนงเพื่อช่วยพวกเขาจากการปกครอบแบบเผด็จการของสการ์
หลังจากนาลาได้กลายเป็นราชินีแล้ว เธอได้เติบโตขึ้นอย่างสง่างามและมีความฉลาดมากขึ้น แต่ไม่กล้าหาญเหมือนเคยอีกต่อไป ซึ่งแตกต่างจากซิมบ้า คำพูดและคำแนะนำที่นุ่มนวลของเธอทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการปรับความแข็งกร้าวของซิมบ้า นาลาสนับสนุนซิมบ้าในการตัดสินใจของเขา เธอยืนเคียงข้างเขาเสมอไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร
Fun Fact เกียวกับนาลา
- ชื่อของนาลา (Nala) ในภาษาแทนซาเนียแปลว่า “โชค” ในภาษาแอฟริกันแปลว่า “ประสบความสำเร็จ” และในภาษาสวาฮิลีแปลว่า “ของขวัญ”
- แม้ว่าซาซูจะบอกซิมบ้าและนาลาว่าวันหนึ่งทั้งคู่จะแต่งงานกัน แต่ทั้งคู่ก็คิดว่าพวกเขาควรจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันตลอดไป
- ในความเป็นจริง นาลาควรจะต้องถูกเนรเทศออกจากดินแดนหลังจากที่เธอปฏิเสธข้อเสนอของสการ์ที่จะเป็นราชินีของเขา แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ได้รวมอยู่ในละครบรอดเวย์ The Lion King แทน
- แต่เดิมนาลามีน้องชายที่ชื่อว่า “ธีตู” (Mheetu) แต่ตัวละครของเขาต้องหลุดออกไปเพราะเวลาที่จำกัด
- นาลาจะไม่แต่งงานกับซิมบ้าจนกว่าเขาจะได้กลยเป็นราชาแห่งดินแดนทรนง
- นาลาไม่ถูกรวมอยู่ใน “เจ้าหญิงดิสนีย์” (Disney Princess) เนื่องจากเธอเป็นสิงโต ไม่เหมือนแอเรียลที่เป็นนางเงือก แต่เธอมีรูปร่างเหมือนมนุษย์มากกว่าและในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นมนุษย์
มูฟาซา (Mufasa) เจ้าป่าแดนทรนงผู้เป็นพ่อของซิมบ้า
มูฟาซา (Mufasa) เป็นกษัตริย์ของดินแดนทรนง (Pride Lands) และเป็นพ่อของซิมบ้า ในระหว่างรัชสมัยของเขา มูฟาซาถูกฆ่าโดยสการ์ น้องชายที่อิจฉาเขาและพยายามที่จะขโมยบัลลังก์ แม้เขาจะเสียชีวิตแต่มูฟาซาก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนที่เขารัก วิญญาณของเขามักแสดงออกมาในเมฆ ดวงดาว และแสงแดด ซึ่งบางครั้งดูเหมือนจะช่วยนำทางให้ลูกหลานของเขา
มูฟาซาเป็นลูกชายคนแรกของอะฮาดิ (Ahadi) และอุรุ (Uru) และเป็นพี่ชายคนโตของอัสการิ (Askari) เขาเป็นรัชทายานแห่งดินแดนทรนง (Pride Rock) ในขณะที่น้องชายของเขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย เมื่อทั้งสองเป็นวัยรุ่น อัสการิได้กลับมาที่ดินแดนหลังจากลาดตระเวณเดี่ยว เขาได้บอกกับมูฟาซาถึงชัยชนะของเขาท่มีต่อสิงโตจองโกงที่พยายามจะเข้ามายึดครองดินแดนของเขา แต่มูฟาซากลับตั้งชื่อเล่นให้เค้าอย่างสนุกสนานว่า “สการ์” (Scar) เนื่องจากบาดแผลบนใบหน้าของเขาที่ได้รับจากการต่อสู้ อย่างไรก็ตามสการ์เริ่มรู้สึกอิจฉามากขึ้นในตำแหน่งของพี่ชายของเขา เขาพยายามที่จะโค้นล้มโดยใช้เสียงคำรามแต่สุดท้ายก็แพ้เพราะทำเช่นนั้น
ไม่นานต่อมา นกเงือกที่ชื่อซาซู ก็เกือบจะถูกไฮยีน่าฆ่าตาย แต่มูฟาซาได้เข้าไปช่วยทำให้พวกนั้นกลัว เหตุการณ์นี้ทำให้ซาซูรู้สึกของคุณและหวังว่าเขาจะได้รับใช้กษัตริย์ในอนาคต ซึ่งในที่สุดซาซูก็ได้ติดตามมูฟาซาไปรอบๆ อยู่มาวันนึงซาซูได้สังเกตเห็นแร้งบางตัวบินวนเวียนอยู่ เลยถามมูฟาซาว่าอยากบินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เขาได้บอกมูฟาซาว่าซาราบิ (Sarabi) ติดอยู่ในหลุมและไม่สามารถออกไปได้ ซาซูพบต้นไม้และได้ช่วยซาราบิกออกมาได้ มูฟาซาตระหนักว่าซาซูมีประโยชน์และให้เขาเป็นที่ปรึกษาของราชวงศ์หลังจากการตายของพ่อของเขาและเขาได้ขึ้นเป็นราชา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มีลูกชายชื่อ “ซิมบ้า” ซึ่งทำให้สการ์ยิ่งอิจฉามากขึ้น เมื่อรู้ว่าหลานชายจะสืบทอดบัลลังก์ในสักวันหนึ่งซึ่งมันไม่ใช่เขา
แม้มูฟาซาจะมีร่างกายที่สง่างาม แต่เขาก็เป็นคนใจดีและขี้เล่น เขาแสดงความเคารพต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดแม้กระทั่งคนที่ถูกมองว่าต่ำกว่าตัวเอง ในฐานะกษัตริย์และบิดา มูฟาซาเป็นสิงโตที่ฉลาด เขาเป็นผู้ให้คำแนะนำผ่านประสบการณ์และการสั่งสอนมาหลายปี การปกครองดินแดนของเขาส่งผลให้เกิดความรุ่งเรืองในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่สมเหตุสมผลและมีความรับผิดชอบในการเป็นกษัตริย์ บทบาทของเขาทำให้ซิมบ้าฝังใจลึกๆ ซึ่งเขาเรียนรู้จากพ่อของเขาว่าสิ่งมีชีวิตทุกตัวต้องได้รับการเคารพเพื่อรักษาสมดุล ภูมิปัญญาของเขาสัมผัสผ่านความเข้าใจในความรับผิดชอบ และความเต็มใจที่จะละเว้นผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อพัฒนาดินแดนให้ดีขึ้น ในท้ายที่สุด มูฟาซาแสดงให้เห็นว่าเขาเป็น “ราชาในอุดมคติ” ที่มีพลัง แต่ใจดี ซึ่งตรงกันข้ามกับความหลอกลวงและความปรารถนาในอำนาจของสการ์
Fun Fact เกี่ยวกับมูฟาซา
- ชื่อของมูฟาซาในภาษาสวาฮิลีแปลว่า “ราชา”
- เมื่อมูฟาซาบอกซิมบ้าว่าร่างกายของพวกเขากลายเป็นหญ้าเมื่อพวกเขาตาย นั่นหมายถึงเชื้อราและแบคทีเรียที่ย่อยสบายซากของพวกเขาลงในดินที่หญ้าเติบโต
- มูฟาซาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก King Hamlet จากละครเรื่อง “Hamlet” ของเช็คสเปียรื ซึ่ง The Lion King มีพื้นฐานมาจากเรื่องนี้ เช่นเดียวกับ King Hamlet มูฟาซาได้รับการจดจำในฐานะผู้ปกครองที่เข้มแข็ง ฉลาด และเที่ยงธรรม และถูกฆ่าตายโดยน้องชาของเขา แต่อย่างไรก็ตามสองเรื่องนี้ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เนื่องจากมูฟาซาเป็นคนที่ใจดีมีอารมณ์ขันที่เรียกร้องให้ลูกชายของเขารับมรดกเพื่อประโยชน์ของ Circle of Life ในขณะที่ King Hamlet ต้องการเพียงการตายเพื่อล้างแค้น
ซาราบิ (Sarabi) แม่ของซิมบ้า
ซาราบิ (Sarabi) เป็นสิงโตราชินีแห่งดินแดนทรนง (Pride Rock) เธอเป็นภรรยาของมูฟาซา และเป็นแม่ของซิมบ้า ในฐานะราชินีเธอแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ดูแลสิงโตและกลุ่มล่าสัตวื ซาราบิมีภาพที่ฉลาด กล้าหาญ และเข้มแข็ง แต่ก็อ่อนโยนและมีอารมณ์ขันในเวลาเดียวกัน เธอของสนับสนุนมูฟาซา เธอค่อนข้างเข้มงวดกับการดูแลซิมบ้าและกระตุ้นให้เขาเรียนรู้หน้าที่ราชวงศ์จากพ่อของเขา ซาราบิไม่เพียงแต่เป็นคนอ่อนโยนและพูดจานุ่มนวลเท่านั้น แต่เธอยังเป็นแม่ที่ขี้โมโหและไม่กลัวที่จะแกล้งซิมบ้าเพื่อให้เขาได้เรียนรู้
Fun Fact เกี่ยวกับซาราบิ
- ชื่อของซาราบิ (Sarabi) ในภาษาสวาฮิลี แปลว่า “ภาพลวงตา”
- เคียรา (Kiara) ลูกสาวของซิมบ้า หลานสาวของซาราบิ มีความคล้ายคลึงกับเธอมาก
- ในช่วงแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซาราบิมีพี่สาว 3 ตัวชื่อ นาอันดา (Naanda), ดิกู (Diku) และดวาลา (Dwala) ซาราบิเป็นป้าของนาลา (Nala) เนื่องจากนาลาเป็นลูกสาวของนาอันดา ซึ่งตามความสัมพันธ์ของซิมบ้าและนาลาก็จะถือว่าเป็นการร่วมประเวณีระหว่างลูกพี่ลูกน้อง จึงได้มีการออกแบบใหม่ให้นาอันดาเปลี่ยนเป็น “ซาราฟิน่า” (Sarafina) ซึ่งเป็นเพื่อนของซาราบิแทนที่จะเป็นน้องสาว
ทีโมน (Timon) เมียร์แคทเพื่อนของซิมบ้า
ทีโมนเป็นเมียร์แคตตัวเต็มวัย และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพุมบ้า ในตอนแรกทีโมนมองว่าการช่วยซิมบ้าทำให้เขาได้ผู้คุ้มกันเพราะซิมบ้าเป็นสิงโต อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปทีโมนมองซิมบ้าเป็นลูกชายของเขาเอง ทีโมนสามารถยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางและไร้ความคิดในบางครั้ง เช่นเมื่อเขาตัดสินใจที่จะรับซิมบ้าเข้ามา แต่สุดท้ายแล้วเขาก็มีจิตใจที่ดีและภักดีต่อเพื่อนและครอบครัว ซึ่งต่างจากเมียร์แคตส่วนใหญ่ที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา ทีโมนเป็นคนชอบนอนฝันกลางวัน ซึ่งส่งผลให้เขาถูกขับไล่ออกจากอาณานิคมของเขา
Fun Fact เกี่ยวกับทีโมน
- ทีโมนเป็นเพียงตัวละครเดียวที่ยืนและเดินด้วยเท้าหลังของเขา ในขณะที่เมียร์แคตปกติเดิน 4 ขา
- มีการเปิดเผยใน “The Lion King II: Simba’s Pride” ว่าทีโมนไม่รู้เรื่องการตายของสการ์
- ทีโมนมีความรู้บางอย่างเกี่ยวกับเทคโนโลยีของมนุษย์เช่น “ปืน”
- ทีโมนชอบแมลง “Crunchy bugs” มากกว่าอาหารอื่นๆ
พุมบ้า (Pumbaa) หมูป่าเพื่อนของซิมบ้า
พุมบ้าเนหมูป่าตัวเต็มวัยสีน้ำตาลแดง เขาเป็นหมูที่ตะกละและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของทีโมน สัตว์ส่วนใหญ่มีความระมัดระวังและไม่ใยดีกับพุมบ้าเนื่องจากกลิ่นฉุนของเขา แต่เขาก็ยังคงมความสุขโดยการทำตามปรัชญา “ฮาคูน่า มาธาธ่า” (Hakuna Matata) เมื่อซิมบ้าพบว่าตัวเองหลงทางและอยู่คนเดียวในทะเลทราย พุมบ้าผู้ไม่เห็นแก่ตัวก็ช่วยเหลือสิงโตน้อยอย่างรวดเร็วและเลี้ยงดูเขาเหมือนลูกชายเคียงข้างทีโม แม้ว่าในตอนแรกทีโมนจะไม่เต็มใจก็ตาม
พุมบ้าเป็นตัวละครที่มีใจรักและเปิดเผย ซึ่งบางครั้งก็แสดงความไร้เดียงสาเหมือนเด็ก จนบางครั้งเขาสับสนเพราะความโง่เขลา แม้ว่าพุมบ้าจะถูกทิ้งและอาจถูทำร้ายเนื่องจากกลิ่นเหม็นของเขา แต่พุมบ้าก็มีความภักดีและความทุ่มเทที่มีต่อเพื่อนของเขาอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นความเห็นแก่ตัวของทีโมนทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากแม้จะมีคำเตือนจากพุมบ้า จึงส่งผลให้เขาต้องเข้าไปช่วยเสมอ เมื่อทีโมนปฏิเสธที่จะออกจากโอเอซิสเพื่อช่วยซิมบ้า ในขณะที่พุมบ้าเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะทำแม้ว่าจะรู้ว่าเขาอาจจะตายในการต่อสู้กับสการ์ก็ตาม
Fun Fact เกี่ยวกับพุมบ้า
- พุมบ้าถูกเรียกว่า “หมู” ทั้งทีโมนและซิมบ้า แต่เขาไม่ตอบสนองในทางลบเพาะพวกเขาเป็นเพื่อนกัน และไม่ได้หมายความว่าเป็นการดูถูก
- ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของพุมบ้าคือเขามนจะลูบท้อง ซึ่งนี่มาจากแอนิเมเตอร์ Tony Bancroft ซึ่งภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์และมักจะลูบท้องของเธอ
สการ์ (Scar) ตัวร้ายของเรื่อง Lion King
สการ์เป็นศัตรูุหลักในเรื่อง The Lion King ในฐานะน้องชายของมูฟาซาและเจ้าชายคนที่สอง สการ์เป็นคนต่อไปที่จะได้ครองบัลลังก์ในฐานะกษัตริย์ แต่โอกาสของเขาได้ถูกกลืนหายไปในวันเกิดของหลานชายของเขาซิมบ้า สการ์ได้พบกับไฮยีน่า 3 ตัวชื่อ Shenzi, Banzai และ Ed ซึ่งบอกได้บอกว่าถ้ามูฟาซาล้มเหลว สการ์ก็จะดูเป็นราชาและจะได้ครองบัลลังก์ในไม่ช้า ความแค้นและความโกรธของเขาที่มีต่อมูฟาซารุนแรงขนาดที่ว่าหลังจากที่เขาชิงตำแหน่งราชามาได้เขาก็ตั้งกฎว่าห้ามกล่าวถึงชื่อมูฟาซาต่อหนาเขา
แม้สการ์จะดูสง่างามและดูมั่นคง แต่เขาก็ดุร้ายและมีปมด้อย บางครั้งเขาดูเป็นคนเศร้า ซึ่งมักจะพยายามพูดคุยด้วยการถากถางและดูถูก หลังจากยึดบัลลังก์ได้พฤติกรรมโดยรวมของเขาก็เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงจนกลายเป็นคนหลงผิดและเชื่อว่าเขายังคงเป็นผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ แม้จะมีหลักฐานชัดเจนในทางตรงกันข้าม แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เต็มใจยอมรับว่ามูฟาซาเป็นกษัตริย์ที่ดีกว่า
Fun Fact เกี่ยวกับสการ์
- ใน “The Lion Guard” สการ์เกิดภายใต้ชื่ออัสการิ “Askari” ตามบรรพบุรุษของเขา ซึ่งในภาษาสวาฮิลีแปลว่า “ตำรวจ” หรือ “ยาม” และมีอยู่ช่วงนึงที่เขาได้รับเลือกเป็นผู้นำ Lion Guard ทีมสิงโตที่จะปกป้องดินแดงแห่งความภาคภูมิใจ (Pride Lands) และวงกลมแห่งชีวิต (Circle of Life)
- ใน “A Tale of Two Brothers” ชื่อของสการ์คือ Taka เป็นคำภาษาสวาฮิลีแปลว่า “เสีย”
- ความโลภในอำนาจของสการ์นั้นคล้ายกับอดอล์ฟฮิตเลอร์มาก เมื่อเขายืนอยู่บนหน้าผาและมองไปที่กองทัพไฮยีน่าที่กำลังเตรียมพร้อม มันแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของนาซี
- ตลอดทั้งเรื่องสการ์แทบจะไม่ยอมถอยกรงเล็บ นี่เป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อให้เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ในขณะที่เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจ
ราฟิกิ (Rafiki) ลิงแมนดริลผู้ทรงภูมิ ผู้เป็นทุกอย่างให้เดอะไลอ้อนคิง
ราฟิกิ (Rafiki) เป็นลิงแมนดริลที่ทำหน้าที่เป็นหมอผีและที่ปรึกษาของดินแดนแห่งความภาคภูมิใจ ราฟิกิมีความผิดปกติที่วาดภาพขเขาว่าเป็นคนบ้า ในความเป็นจริงเขาเป็นปราชญ์ที่มีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับองค์ประกอบที่มีมนต์ขลังและจิตวิญญาณ ราฟิกิใช้ภูมิปัญญาของเขาเพื่อให้คำแนะนำผู้ที่ต้องการโดยเฉพาะสิงโต
ราฟิกิไม่ได้อาศัยอยู่ในดินแดนทรนงเสมอไป เขาเป็นนักเดินทางที่กำลังศึกษาดินแดนแอฟริกันและในที่สุดก็สะดุดเข้ากับดินแดนแห่งความภาคภูมิใจและในที่สุดเขาก็อาศัยอยู่ที่นี่และกลายเป็นเพื่อนสนิทของมูฟาซา เขาอาศัยอยู่ในต้นโกงกายโบราณซึ่งเขาทำพิธีเกี่ยวกับหมอผีเป็นประจำ เขาเป็นคนที่ฉลาดและฉลาดมาก และได้รับบทบาทเป็นปราชญ์แห่งดินแดนแห่งความภาคภูมิใจและทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็งพื่อให้แน่ใจว่าวงกลมแห่งชีวิตยังคงสมดุล
Fun Fact เกี่ยวกับราฟิกิ
- ราฟิกิ (Rafiki) ชื่อของเขาแปลว่า “เพื่อน” ในภาษาสวาฮิลี
- ในร่างแรกสุดของ The Lion King ราฟิกิไม่ใช่ลิงแมนดริล แต่เป็นเสือชีต้า และสการ์เป็นลิงบาบูน
- ราฟิกิเป็นสายพันธุ์ลิงแมนดริลซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่สายพันธุ์ที่ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในทะเลทรายซาฮาร่าของแอฟริกา
ซาซู (Zazu) นกเงือกเพื่อนสนิทของมูฟาซา
ซาซูเป็นนกเงือกปากแดงที่ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามและที่ปรึกษาของกษัตริย์มูฟาซา และผู้ดูแลซิมบ้า เขาถูกตั้งให้รายงานตอนเช้าทุกวันแก่กษัตริย์แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่จากผู้อื่นอย่างจริงจังเนื่องจากเขามีขนาดเล็กและมีอารมณ์ที่เปราะบาง เขามีความรู้ด้านการทูตและเข้มงวด เขารับตำแหน่งที่ปรึกษาราชวงศ์อย่างจริงจังและถือว่าตัวเองเป็นคนขรึม และมักจะโอ้อวด น่าเสียดายที่บางครั้งงานของเขาจะดูอันตรายทำให้เขามีความวิตกกังวลและความไม่มั่นคงทางอารมณ์ และมีแนวโน้มที่จะตื่นตระหนกเมื่อเกิดสิ่งผิดพลาด
เนื่องจากอารมณ์ที่แปรปรวนและมีความคิดเห็นในตัวเองสูง ทำให้ซาซูไม่ได้รับการเอาใจใส่จากตัวละครอื่น โดยเฉพาะซิมบ้าและนาลาที่อายุยังน้อย ในทำนองเดียวกันสการ์มองว่าซาซูเป็นแค่สัตว์รบกวนและพยายามทรมานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อมีโอกาส เช่น วางเขาไว้ใปากสัก 2-3 วิ หรือขังซาซูไว้ในซี่โครง แม้แต่มูฟาซาก็มีส่วนร่วมในการแกล้งซาซูแม้ว่าพวกเขาจะยังเคารพซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามซาซูมีความภักดีต่อกษัตริย์อย่างไม่ต้องสงสัยและได้พิสูจน์ถึงประโยชน์ของเขาหลายต่อหลายครั้งในฐานะ “หูและตา” ของกษัตริย์ ซาซูรู้เรื่องทั้งหมดและบอกทุกอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดปัญหา และเขายังถูกกล่าวถึงว่าเป็นผู้รักษาความลับในดินแดนแห่งความภาคภูมิใจอีกด้วย
Fun Fact เกี่ยวกับซาซู
- ชื่อของซาซูหมายถึง “การเคลื่อนไหว” ในภาษาฮิบรู
- ซาซูได้แสดงให้เห็นถึงความสามารในการลอยตัวอยู่กลางอากาศ ซึ่งเป็นความสามารถในการบินที่ยากมาก นกที่มีชีวิตจริงมีเพียงชนิดเดียวที่สามารถทำได้คือนกฮัมมิงเบิร์ด และนกล่าเหยื่อบางชนิดเช่น นกเหยี่ยว นกเขา ซึ่งการทำเช่นนั้นเพื่อระบุตำแหน่งของเหยื่อ
- มีการกล่างถึงซาซูว่าเขาสามารถพูดกับลิงกอริลล่า ช้าง ลิงชิมแปนซี และบุชบัคได้
ดูตัวอย่างเรื่อง The Lion King เดอะไลอ้อนคิง
www.rinrinworld.com/home/เดอะไลอ้อนคิง
ภาพประกอบ: pinterest
เนื้อหาบางส่วน: Youtube
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Shopee: https://shopee.co.th/rinrinworld
– Facebook: https://www.facebook.com/rinrinworldshop/
– Website: https://www.rinrinworld.com/