Last Updated on October 25, 2021
ก้านกล้วย KhanKluay
ก้านกล้วย KhanKluay เรื่องราว ของช้างน้อยที่ชื่อว่าก้านกล้วย ที่ใช้ชีวิตอิสระอยู่ท่ามกลางป่าลึก วันหนึ่งเขาได้สงสัยว่าพ่อของเขาภูผาของเขานั้นไปอยู่ที่ไหน ก้านกล้วยจึงออกไปตามหาพ่อ จนได้เจอชบาแก้ว ช้างน้อยสีชมพูผู้พาไปเจอพ่อของเขาซึ่งเป็นมนุษ์และเป็นครูฝึกช้าง ก้านกล้วยได้ข้อมูลจากจิดริ๊ดเพิ่มเติมว่า พ่อของเขาเป็นช้างศึกในวัง ช้างที่เขาต้องผ่านการทดสอบเป็นช้างศึกจึงได้เข้าไปพบพ่อในวัง เขาพากเพียรฝึกฝนจนแข็งแกร่งกว่าช้างตัวใดๆ และแล้วเขาก็ได้คัดเลือก เป็นถึงช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวร ก้านกล้วยได้รู้ถึงวีรกรรมของภูผาซึ่งได้พลีชีพอย่างกล้าหาญในสนามรบ เขาจึงดำเนินรอยตาม และแก้แค้นทัพพม่านำมาซึ่งชัยชนะของทัพอโยธยา ทำให้แผ่นดินกรุงศรีเป็นไท และพ้นเงื้อมมือทัพหงสา เรื่องราวอันสนุก ตื่นเต้น ประทับใจ และอบอุ่น ผ่านการดำเนินเรื่งราวจากช้างน้อยก้านกล้วย สู่ตำนานวีรบุรุษ เจ้าพระยาปราบหงสา
เนื้อเรื่องย่อ (สปอยยับ) ก้านกล้วย KhanKluay
ในอตีตกาล ณ กลางป่าแห่งหนึ่ง มีช้างตัวน้อยตัวหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นมา มันเป็นช้างที่มีลักษณะรูปร่างที่ดีมาก งวงยาว ผิวขาว ตากลมโต หลังโค้งแปรสวยราวต้นกล้วย ช้างย่าก็เลยต้องให้ช่างน้อยนั้นชื่อว่าก้านกล้วย ย่าได้บอกว่าเมื่อโตขึ้นจะต้องเหมือนพ่อมันแน่นอน แต่น่าเสียดายที่พ่อของเขาไม่เคยเห็นลูกชายของเขาเลย
ณ กรุงศรีอยุธยา ตอนนี้กรุงศรีอยุธยามีสงครามกับพวกพม่ารามัญ พวกมันกรีฑาพัพบุกมาถึงหน้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทหารสองฝ่ายได้เผชิญหน้ากันและได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดภูผาพ่อของก้านกล้วยเป็นช้างศึก ภูผาและเพื่อนก็ได้ออกศึกด้วยกัน เพื่อนของภูผาก็ได้เผชิญหน้ากับช้างศึกของหงสาวดีที่มันตัวใหญ่มาก มันจู่โจมช้างศึกของกรุงศรีอยุธยาจนล้ม และปรี่เข้ามาหมายจะกระทืบซ้ำให้ถึงกับความตาย เมื่อภูผาเห็นดังนั้นจึงรีบปรี่มาช่วยเพื่อน และภูผาก็ได้เข้าต่อสู้กับช้างศึกแห่งหงสาวดี ชื่องวงแดง
ตัดกลับมาที่ป่าใหญ่ พวกเด็กช้างน้อยกำลังเล่นกันอย่างสนุก โดยมีช้างน้อยมะโรงช้างเป็นหัวโจกแก๊งนี้ ก้านกล้วยมาซึ่งเป็นช้างที่เรียบร้อยและนิสัยดี มันมักจะมาเล่นกับพวกกบเสมอ แต่พวกไอ้มะโรงเด็กเกเรมันก็เอาแม่กบมาเล่นเป็นลูกบอล ก้านกล้วยก็เลยเข้ามาห้ามเอาไว้ พวกไอ้มะโรงก็เลยเข้ามาหาเรื่องก้านกล้วยโดยเอางวดฟาดไป แต่ก้านกล้วยหลบได้ มันพุ่งมาอีกรอบ ก้านกล้วยก็หลบได้แถมขัดขาอีก จนมันกลิ้งตกเนินไปเลย มะโรงโกรธแค้นมาก มันเลย ด่าก้านกล้วยออกไปว่า ลูกไม่มีพ่อ ก้านกล้วยโกรธมากเข้าไปต่อสู้กับไอ้มะโรง จิดริด นกพิราบสื่อสารแห่งกรุงศรีอยุธยาก็มาเห็นพอกีว่าก้านกล้วยโดนพวกช้างเกเรรุมอยู่
กลับมาถึงบ้านก้านกล้วยพยายามปกปิดแผลที่สู้กับพวกไอ้มะโรง แต่จิดริดก็บินโฉบเข้ามาชมว่าก้านกล้วยสู้ได้เจ๋งมาก จนแสงดาแม่ของก้านกล้วยเห็นแผลของก้านกล้วย เมื่อรู้ว่าจิดริดเป็นพิราบสื่อสาร คุณย่าก็ถามว่ารู้จักกับภูผารึเปล่า จิดริดกำลังจะบอก แต่พวกไอ้มะโรงก็ปรี่เข้ามาบอกข่าว ทหารมากันเพียบเลยเราจะทำอย่างไรกันดี ช้างย่าเลยรีบสั่งอพยพฝูงทันที คำถามนั้นยังคาใจเจ้าก้านกล้วย เขาถามแม่ของเขาว่าภูผาเป็นใคร ใช่พ่อของเขาหรือไม่ แสงดาวตอบกลับไปว่าไม่มีอะไรหรอก
ในคืนนั้นก้านกล้วยยังมีเรื่องพ่อค้างคาอยู่ในใจ ยังคงถามแม่ว่าภูผาคือพ่อเขาใช่ไหม พ่อทำไมไม่มาอยู่กับเรา แสงดาได้บอกความจริงก้านกล้วยไปว่า ภูผานั้นถูกมนุษญ์จับตัวไปเป็นทหารและไม่เคยได้กลับมาที่นี่อีกเลย ก้านกล้วยบอกอีกว่าทำไมเราไม่ไปช่วยพ่อหละเพราะมนุษย์อยู่ใกล้แค่นี้เอง แต่แสงดาก็ห้ามไปพบมนุษย์เด็ดขาดเพราะมนุษย์อันตรายมาก แสงดาเสียภูผาไปแล้วไม่อยากเสียก้านกล้วยไปอีกคน แต่ก้านกล้วยตั้งปณิธานที่จะไปช่วยภูผาพ่อของเขาให้ได้ คืนนั้นก้านกล้วยได้แอบมาค่ายทหาน แต่ค่ายทหารนั้นกลับเป็นค่ายพวกหงสาวดี ไม่ใช่ค่ายทหารอโยธยา และตอนนี้แก๊งค์ของไอ้มพโรงก็มาเล่นในแคมป์นี้ด้วย ก้านกล้วยได้ลอบเข้าไปเต๊นท์นึงก็ได้ไปเจอช้างตัวใหญ่ยักษ์ ตาของมันนั้นมีแววตาสีแดงไร้ความปราณีน่าสะพรึงกลัว ก้านกล้วยเข้าไปถามว่ารู้จักภูผาพ่อของเขาไหม มันโกรธจัดแผดเสียงร้องกัมปนาท ทหารยามที่อยู่ใกล้เคียงรีบเข้ามาดู ก้านกล้วยจึงรีบหนีออกมา
ตอนนี้ค่ายทหารพม่าองตปั่นป่วน ทหารช่วยกันจับก้านกล้วย ฝ่ายก้านกล้วยนั้นก็หนีมาเต๊นท์ที่แก๊งค์มะโรงอยู่ ชุลมุนวุ่นวายกันยกใหญ่จนไอ้มะโรง หนีเข้าไปในเต๊นท์คลังแสงเก็บดินปืน ด้วยความป่วนมันจึงจุดระเบิดคลังแสงนั้น ทำให้ค่ายหทารพม่าวุ่นวายหนักขึ้นไปอีก ก้านกล้วยรีบหนีไปอีกเต๊นท์ แต่เต๊นท์นี้คือเต๊นของพระองค์ดำ หรือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงบอกว่าไม่ต้องกลัวฉันไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ทั้งสองจ้องตากันและพระองค์ก็ได้สัมผัสไปที่หน้าผากก้านกล้วย ก้านกล้วยก็ได้ถวายตะบังคม ทหารตะโกนถามพระองค์ดำว่าเห็นช้างผ่านมาหรือไม่พระองค์ตอบไปว่าไม่เห็น และก้านกล้วยก็หนีออกมาได้สำเร็จ
ถึงจะหนีออกจากค่ายทหารพม่ามาได้สำเร็จ แต่มันก็ยังหนีไม่พ้นระหว่างนั้นก้านกล้วยเจอทหารพม่าอีกรอบทำให้มันต้องวิ่งหนีเข้าไปในป่าอีกครั้ง จนมันตกหน้าผาไปและตกลงไปในน้ำ แสงดาสะดุ้งตื่นและพบว่าก้านกล้วยหายตัวไปแล้ว ฝ่ายก้านกล้วยตื่นขึ้นมาท่ามป่าลึก เขาพยายามจะโค่นต้นกล้วยมากิน ระหว่างนั้นเขาได้พบช้างสีชมพู ชื่อว่าชบาแก้ว เธอได้เดินเข้ามาทักก้านกล้วยและชักชวนเขาไปกินชมพู่ ชบาแก้วอาสาพาก้านกล้วยกลับไปส่งที่โขลง แต่พอมาถึงโขลงเขาก็พบว่าทุกคนนั้นไม่อยู่แล้ว เขาคิดถึงแม่เขามากแต่ชบาแก้วก็มาปลอบใจ และชวนก้านกล้วยไปอยู่ที่หมู่บ้านของเธอจนกว่าก้านกล้วยจะหายดี ชบาแก้วบอกว่าพ่อของเธอรู้ทุกอย่างในป่าแห่งนี้ อาจจะช่วยก้านกล้วยหาแม่ก็ได้นะแล้วก็วิ่งไปหาพ่อของเธอ พ่อของเธอเป็นมนุษย์ ก้านกล้วยตกใจมากเพราะเขาไม่เคยพบมนุษย์มาก่อน เขาวิ่งหนีทันทีแต่โดนพ่อเฒ่าจับตัวได้
กลับมาที่กรุงหงสาวดี พลายงวงแดงถูกต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ แต่พวกมะโรงโดนจับตัวมาด้วย พร้อมพระองค์ดำก็ได้ถูกจับตัวมากรุหงสาดีด้วยเช่นกัน ก้านกล้วยโดนจับผูกกับเสาและพยายามหนี เขาเห็นช้างตัวอื่นๆที่ๆ โดนใช้งานเยี่ยงทาส ก้านกล้วยโกรธชบาแก้วมากที่หลอกเขามาโดนจับและก็บอกเธอว่า เธอน่ะไปไกลๆเลยนะ ไม่ต้องมายุ่งกับเขา แต่เมื่อก้านกล้วยมองดูจริงๆ เขาพบว่าที่นี่ช้างและมนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่เขาคิดถึงแม่มาก
วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า บัดนี้แผลที่ขาของก้านกล้วยได้หายเป็นปกติ แต่ทันใดนั้นพวกหงสาก็บุกหมู่บ้านนี้ พ่อเฒ่ากำชับว่าให้อยู่ที่นี่ห้ามไปไหน แต่ก้านกล้วยไม่ฟังเขาหนีออกมา พวกหงสามันมาเพื่อเก็บส่วยสเบียงและมันมาพร้อมกับเสือ และหมาป่าสีม่วง ชบาแก้วสังเกตเห็นว่าก้านกล้วยหนีออกไปทางหลังหมู่บ้านเลยตามไป ยังไม่ทันได้ไปไหนไกลก็เจอกับไอ้พวกหมาป่าสีม่วงมาไล่ ก้านกล้วยได้ยินเสียงชบาแก้วร้องขอความช่วยเหลือเลยรีบวิ่งไปดูเธอโดนรุมทำร้ายอยู่ ก้านกล้วยเลยรีบวิ่งไปช่วยชีวิตชบาแก้วจากพวกหมาป่าทันที และแล้วพ่อเฒ่าก็พาช้างในหมู่บ้านมาช่วยชบาแก้วไว้ได้
ชบาแก้วได้รับบาดเจ็บหนักพ่อเฒ่าจึงพากลับหมู่บ้านไปรักษา และได้ชักชวนก้านกล้วยไปอยู่ที่หมู่บ้านด้วย ก้านกล้วยสองจิตสองใจว่าจะออกตามหาแม่หรือไปอยู่ในหมู่บ้าน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจไปอยู่ในหมู่บ้าน ก้านกล้วยได้มีโอกาสถามจิดริดว่าพ่อของเขานั้นอยู่ที่ไหน จิดริดตอบว่า พ่อของเอ็งเป็นช้างศึกก็ต้องอยู่ในวังสิวะ มีวิธีเดียวที่จะเข้าไปในวังได้ก็คือ ก้านกล้วยต้องเป็นช้างศึกเหมือนกับพ่อของเขา ก้านกล้วยมีแรงบันดาลใจในการฝึกเป็นช้างศึกทันที ตอนแรกเขาทำอะไรไม่ค่อยได้เพราะยังตัวเล็กอยู่ แต่วันเวลาผ่านไปหลายปี ผ่านการเคี่ยวกรำมาอย่าหนักบัดนี้เขาได้กลายเป็นช้างหนุ่มที่มีพละกำลังสมบูรณ์เต็มที่แล้ว และไม่ว่าช้างหน้าไหนก็เอาชนะเขาไม่ได้
วันลอยกระทงได้มาถึง บัดนี้ชบาแก้วละก้านกล้วยได้เป็นแฟนกันแล้ว เขายังเฝ้าฝันถึงวันที่ได้เจอกับครอบครัว ขณะนั้นได้มีจดหมายมาจากกรุงศรีมาที่พ่อเฒ่าแจ้งข้าวว่า ตอนนี้กรุงศรีอยุธยาเป็นไทแล้ว ชาวบ้านต่างโห่ร้องตะโกนดีใจเป็นอันมาก รุ่งขึ้นกรุงหงสามาแก้แค้ยบุกหมู่บ้านทันที แต่คราวนี้ชาวบ้านรวมกำลังกันต่อต้านไว้ได้ แต่มันก็ไม่ยอมและปล่อยเสือออกมาหมายฆ่าทำลายล้างชาวบ้าน แต่คราวนี้เป็นก้านกล้วยพลายหนุ่มมาช่วยไว้และจัดการเสือเสียอยู่หมัด ฝ่ายพ่อเฒ่าได้ถูกหัวหน้าหงสาจับตัวไว้ก้านกล้วยได้ถีบพวกทหารหงสาจนแตกกระเจิงไปวันที่ชาวบ้านต้องพาช้างไปคัดเลือกเพื่อที่จะเป็นช้างหลวงก็มาถึง ชบาแก้วได้อวยพรให้เขาได้เจอพ่อและก้านกล้วยก็ได้ออกเดินทางไป
เมื่อช้างทั้งหมดเดินทางมาถึงวัง ช้างทุกตัวก็ได้เดินมาถึงสนามประลองกลางวัง และทุกตัวก็ได้เริ่มคัดตัวช้างศึก ทั้งวัดขนาดช้าง ความยาวของงวง และความแข็งแรง พระองค์ดำได้ทอดพระเนตรเห็นก้านกล้วย และก็ทรงจำได้ว่าช้างตัวนี้เป็นช้างที่พระองค์เคยเจอเมื่อยังทรงพระเยาว์ การทดสอบพละกำลังได้เริ่มขึ้นก้านกล้วยและช้างอีกตัวต่างออกแรงแข่งกันอย่างสูสี ขณะนั้นโขลงของแสงดาได้เข้ามาพอดี ทำให้แสงดาเห็นว่าก้านกล้วยอยู่ที่นี่ ก้านกล้วยหันมาเห็นแสงดาเรียกเขาและถูกทหานดึงตัวไป เขาจึงผละจากลานประลองและวิ่งไปหาแม่ เขารีบดึงเสาเพนียดออก และดึงเชือกที่พันธนาการแม่ของเขาเสียจนขาด แต่ตอนนี้เขาโดนทหารล้อมเขาไว้เสียแล้ว แต่แล้วพระองค์ดำก็ได้เสด็จมาก้านกล้วยที่กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งก็ได้สงบลง และคุกเข่าลง ทั้งคู่จำได้ว่าได้พบกันมาแล้วจากนั้นพระองค์ดำก็ทรงประกาศว่า ช้างเชือกนี้แหละที่จะเป็นช้างศึกให้กับพระองค์
ก้านกล้วยและแม่ก็ไปพบกันอีกครั้ง แสงดาได้ขอร้องให้ก้านกล้วยนั้นกลับบ้านเพราะว่าไม่อยากให้ก้านกล้วยเป็นแบบภูผา แต่บัดนี้การศึกกับหงสากระชั้นเข้ามา ทหารกรุงศรีต้องเตรียบรับศึกกับหงษาอีกครั้ง ก้านกล้วบให้สัญญากับแสงดาแม่ของเขาว่าเมื่อพบภูผาพ่อของเขา เขาจะกลับบ้านทันทีจากนั้นจิดริด ได้พาทั้งก้านกล้วยและแสงดามาที่หอช้างศึก ที่นั่นเขาได้เจอสหายศึกของภูผา เขาได้ทักว่าก้านกล้วยเหมือนภูผาไม่มีผิด เขาได้พาทั้งคู่ไปที่หอเทพกุญชร สถานที่เก็บกระดูกของช้างที่พลีชีพในสงคราม เขาได้เล่าย้อนไปในตอนที่ทัพหงษากรีฑาทัพมาประชิดเมือง พวกเขาทั้งสองได้ออกรบและสู้กันอย่างสุดกำลัง แต่ได้มาเจอกับช้างยักษ์ฝ่ายหวสาและเสียท่ามัน แต่ภูผาก็ได้มาขวางเอาไว้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของมัน ภูผาก็ได้สละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเขาไว้ และเขายังเสียใจมาถึงทุกวันนี้ที่ภูผาต้องตายไป แสงดาและก้านกล้วยเสียใจมากและกำลังจะกลับ แต่สหายของพ่อได้บอกว่า สำหรับนักรบมันไม่สำคัญหรอกว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน มันสำคัญที่ว่าการตายของเราจะสร้างประโยชน์อันใดให้แผ่นดิน แล้วมอบปลอกงาของภูผาให้ก้านกล้วย
ตอนนี้กองทัพก็พร้อมรับศึกกับหงสาแล้ว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทรงก้านกล้วย ได้นำทัพทหารกรุงศรีนับแสนคน ออกจากพระนครเมื่อ 15 ค่ำเดือนยี่ ปีมะโรง และทุกคนก็ได้ออกไปสู่สนามรบ แสงดาได้ขอพรให้ภูผาได้ออกไปคุ้มครองก้านกล้วย และแล้วกองทัพทั้งสองก็ได้เผชิญหน้ากัน สมเด็จพระนเรศวนมหาราชทรงเรียกขวัญและกำลังใจให้เหล่าทหาร ว่ากองทัพของเรานั้นเล็กเพียงใด ชัยชนะของเราก็ยิ่งใหญ่เพียงนั้น เลือดเนื้อของเราที่จะนองในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อประกาศแสงยานุภาพ แต่เพื่อกำจัดอริราชศัตรูผู้มารุกรานแผ่นดินเพื่อลูกหลานของเรา ทุกคนเข้าห้ำหั่นในสนามรบอย่างไม่เกรงกลัว ก้านกล้วยได้ผ่ากองทัพหงสา ทำเอาทัพหงสาเสียหายอย่างหนัก งวงแดงเห็นอย่างนั้นจึงรอที่จะเผชิญหน้าก้านกล้วยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ก้านกล้วยที่ตีฝ่าทัพหงสาอย่างคึกคะนอง เมื่อฝุ่นควันตลบพบว่าบัดนี้เขาและพระนเรศวรได้ตกอยู่กลางวงล้อมข้าศึกเสียแล้ว
พระองค์ดำได้ตะโกนท้าทายทัพหงสาออกไปว่า จะยืนช้าอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีเพื่อเป็นเกียรติยศต่อแผ่นดินเถิด อย่าให้ต้องลำบากแก่ไพร่พลเลย ช้างหงสาไม่รอท่ารีบพุ่งตัวออกมาหมายเผด็จศึกทันที ก้านกล้วยได้ต่อสู้กับงาแดง ดังเช่นภูผาพ่อของเขาและสู้กันอย่างดุเดือด งวงแดงโจมตีก้านกล้วยอย่างหนักจนที่นั่งบนหลังกระเด็นหลุดไป ก้านกล้วยได้ประสานงา แต่งวงแดงตัวใหญ่กว่ามากทำให้ก้านกล้วยกำลังจะเสียที ตอนนั้นเองเท้าของก้านกล้วยไปยันกับตอไม้แล้วมีหลักงัด ทำให้งาของงวงแดงนั้นหักหลุดกระเด็นไป งวงแดงโมโหมากเพราะมันทำให้รำลึกอดีตถึงภูผาและจำได้ว่าก้านกล้วยคือลูกของภูผา มันพุ่งชนเข้ามาอีกครั้งจนก้านกล้วยกระเด็นไปและได้เอาท่อนไม้ฟาดไปที่ก้านกล้วย พระนเรศวรเห็นดังนั้น จึงเอาพระหัตถ์ลูบหัวก้านกล้วย และได้ตรัสว่า พ่อเมืองเอ๋ย หากท่านทิ้งเรา ณ บัดนี้เท่ากับว่าพ่อละทิ้งตนเอง ยืนหยัดอยู่กับเราเถิด เมื่อความกล้าหาญของพ่อและกำลังของเราจะสามารถพลิกชะตากรรมของแผ่นดินนี้ได้ ก้านกล้วยมีกำลังใจฮึดสู้อีกครั้งและเมื่องวงแดงวิ่งมาอีกครั้ง เขาได้ยันหลักไว้และเป็นจังหวะที่พระนเรศวรฟันของ้าวไปปลิดชีพ แม่ทัพแห่งหงสาพอดี พอได้จังหวะก้านกล้วยได้พุ่งชาร์จพลายงวงแดงกระเด็นไปทิ่มเข้ากับงาที่หัก เสียชีวิตลง ณ ที่แห่งนั้น
พวกพม่ารามัญบัดนี้เมื่อสิ้นแม่ทัพแล้ว ต่างโยนอาวุธยอมแพ้กันสิ้น และกรุงศรีอยุธยาก็ได้รับชัยชนะกลับสู่ความเป็นไทได้อีกครั้ง หลังจากสิ้นศึกยุทธหัตถีกองทัพหงสาวดีก็ไม่กล้ากรีฑาทัพมาอีก ทำให้บ้่นเมืองสงบสุขนับแต่นั้นเป็นต้นมานับร้อยปี ก้านกล้วยได้รับพระราชทานยศเป็น เจ้าพระยาปราบหงสา มียศปรากฏมาถึงปัจจุบัน และเรื่องราวทั้งหมดก็จบลงอย่างมีความสุข
ขายของเล่นตุ๊กตาก้านกล้วย KhanKluay
ดูตัวอย่างเรื่องก้านกล้วย KhanKluay
www.rinrinworld.com/home/ก้านกล้วย
ภาพประกอบ: pinterest
เนื้อหาบางส่วน: Youtube
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Shopee: https://shopee.co.th/rinrinworld
– Facebook: https://www.facebook.com/rinrinworldshop/
– Website: https://www.rinrinworld.com/