Last Updated on June 11, 2024
นุ๊กลิตเติ้ลเวิร์ลซีรี่ NOOK Little World Series จาก 52 Toys โลกใบน้อยแห่งจินตนาการ
นุ๊กลิตเติ้ลเวิร์ลซีรี่ (Nook Little World Series) จากค่าย 52 Toys ถือเป็นซีรี่ส์ของเล่นที่มีคอนเซปต์โดดเด่นและสร้างสรรค์ ด้วยการผสานเรื่องราวลึกลับมหัศจรรย์เข้ากับจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของเหล่าเด็กน้อย ผ่านตัวละครหลักอย่างเด็กน้อยนุ๊ก (Nook) ที่จะพาเพื่อนๆออกเดินทางไปในอีก 8 โลกแห่งความฝัน แต่ละโลกล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าค้นหาและบทเรียนชีวิตซ่อนอยู่
ด้วยดีไซน์ตัวละครที่น่ารัก สีสันสดใส ประกอบกับเรื่องราวที่แฝงแง่คิดและจินตนาการชวนฝัน ทำให้ Little World Series ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของสะสมหรือของเล่นธรรมดา แต่เป็นเหมือนบทเรียนชีวิตในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้เล่นกล้าคิด กล้าทำ และเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง อีกหนึ่งไฮไลท์ของซีรี่ส์นี้คือคุณภาพที่เน้นรายละเอียดและความปราณีต ทำให้ตัวละครดูมีชีวิตจิตใจ และน่าหลงใหลมากขึ้น นอกจากนี้การมีตัว Secret ยังเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการสะสมอีกด้วย
โดยในซีรี่ส์นี้จะมี 8 แบบด้วยกัน และมี Secret อีก 1 แบบ ได้แก่
- กัปตันนักบิน (Flying Captain)
- สัมผัสแห่งกวี (Talk in the Rhy)
- นักท่องกาลเวลา (Space Time Traveller)
- สายด่วนจูมิ (Juimi Express)
- ป่ามนตรา (Magic Forest)
- เครื่องเล่นระลอกคลื่น (Ripple Record Player)
- หมีกับดวงดาว (Bear with the Star)
- สวรรค์จันทรา (Moon Heaven)
- โรงละครหน้าต่าง (Window Theater) – Secret
กัปตันนักบิน Flying Captain
ความคิดสร้างสรรค์ของนุ๊ก เปรียบได้กับพระหัตถ์ของพระเจ้า ที่สามารถเนรมิตสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ มันคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่หยิบยกสิ่งของธรรมดา อย่างกล่องกระดาษเก่าๆ ที่ถูกทอดทิ้ง ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ภายใต้จินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของนุ๊ก กล่องกระดาษนั้นถูกประดับตกแต่งอย่างประณีต จนกลายเป็นปีกกระดาษคู่งามที่พร้อมจะพาเขาโบยบินท่องไปในนภา ผ่านตึกระฟ้าที่ตระหง่านสูงเสียดฟ้า แล้วบินขึ้นไปบนท้องนภาอันกว้างใหญ่ไพศาล เป้าหมายสูงสุดของการผจญภัยครั้งนี้ คือการหาดินแดนในฝันที่เปี่ยมไปด้วยอิสรภาพนับร้อยแห่ง ที่ซึ่งนุ๊กจะได้สัมผัสกับความรู้สึกเป็นอิสระอย่างแท้จริง ปลดปล่อยพลังแห่งจินตนาการให้โลดแล่นไปตามใจปรารถนา
แว่นตาของนุ๊กนั้นใสบริสุทธิ์ดุจผืนน้ำไร้ริ้วคลื่น มันสะท้อนให้เห็นถึงจิตใจที่ซื่อตรง มุ่งมั่น และพร้อมจะค้นพบสิ่งใหม่ๆ เสมอ ผ่านการมองโลกในแง่ดี เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง ความเชื่อมั่น และแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งดีงามให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
สัมผัสแห่งกวี Talk in the Rhy
“คำมั่นสัญญา ณ ทุ่งข้าวสาลี” คือความฝันอันแสนไกลที่นุ๊กตั้งหวังไว้ เขาเฝ้ารอคอยวันที่ฝันนั้นจะกลายเป็นจริง ท่ามกลางท้องทุ่งกว้างที่ต้นข้าวสาลีพลิ้วไหวตามแรงลม เสียงเพลงแห่งความหวังดังก้องอยู่ในหัวใจของเขาเสมอ
นกน้อยที่บินผ่านมา และหุ่นฟางที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนดินสีทอง ต่างก็เล่าเรื่องราวดีๆ มากมายให้นุ๊กฟัง ราวกับว่ามีผู้คนนับไม่ถ้วนในดินแดนอันไกลโพ้น ที่ล้วนอุดมไปด้วยประสบการณ์น่าค้นหาทั้งสิ้น ภายในโลกแสนอบอุ่นของนุ๊ก ทุกคำพูดคำจา ไม่ว่าจะเป็นเสียงกระซิบเบาๆ หรือถ้อยคำดังฟังชัด ล้วนได้รับการรับฟังจากเขาอย่างตั้งใจ เพราะนุ๊กเข้าใจและเห็นอกเห็นใจทุกชีวิตที่ผ่านเข้ามาในโลกของเขาเสมอ
โลกแห่งจินตนาการที่สวยงามของนุ๊ก เป็นพื้นที่พิเศษที่เปี่ยมไปด้วยความฝัน ความหวัง และความอบอุ่น ท่ามกลางความเรียบง่ายที่ผสานเข้ากับความงดงามในแบบฉบับของตัวเอง มันช่างเป็นโลกที่น่าหลงใหลเสียนี่กระไร โลกที่ทุกคนต่างปรารถนาจะก้าวเข้าไปสัมผัส เพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกดีๆ ผ่านตัวตนอันแสนอ่อนโยนและเข้าอกเข้าใจของนุ๊กนั่นเอง
นักท่องกาลเวลา Space Time Traveller
วันหนึ่ง นุ๊กได้ออกไปเดินเล่นที่ร้านขายของมือสองแห่งหนึ่งตามปกติ เขาสะดุดตากับกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งที่ดูเก่ามากแต่ก็มีเสน่ห์น่าหลงใหล ราวกับมันกำลังเรียกร้องความสนใจจากเขาอยู่ นุ๊กสงสัยใคร่รู้ เขาจึงเปิดกระเป๋าขึ้นมาดู และแล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะข้างในนั้นมีนาฬิกาทรายวางอยู่อย่างเด่นเป็นสง่า
ในตอนแรก นุ๊กคิดว่านาฬิกาทรายเป็นเพียงของแถมธรรมดา แต่พอได้สังเกตมันใกล้ๆ กลับรู้สึกว่ามันมีความลึกลับบางอย่างซ่อนอยู่ นุ๊กตัดสินใจหยิบนาฬิกาทรายขึ้นมาพลิกกลับหัว เม็ดทรายสีครามก็ค่อยๆ ไหลย้อนขึ้นไปอย่างเชื่องช้า ขณะเดียวกันก็มีประกายระยิบระยับสาดส่องออกมาปกคลุมรอบกายของเขา
จู่ๆ นุ๊กก็รู้สึกเหมือนโลกรอบตัวเขาเปลี่ยนแปลงไป ตึกรามบ้านช่องที่เคยดูทันสมัยพลันกลายเป็นทรงโบราณ ผู้คนก็สวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ย้อนยุค นุ๊กตกตะลึง…เขาข้ามกาลเวลามาสู่โลกอดีตได้อย่างไรกัน นี่กระเป๋าเดินทางกับนาฬิกาทรายมีพลังพิเศษซ่อนอยู่งั้นเหรอ มันเจ๋งเกินกว่าที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้มากนัก
ถึงแม้เขาจะรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่นุ๊กก็ไม่ได้กลัวเลยสักนิด เขาเชื่อมั่นในความกล้าหาญของตัวเอง ว่าจะสามารถเผชิญกับการผจญภัยในดินแดนอันแปลกใหม่นี้ได้อย่างไม่ย่อท้อ ตราบเท่าที่ยังมีกระเป๋าเดินทางวิเศษคู่ใจติดตัวไป เรื่องราวอันน่าตื่นเต้นมากมายก็จะยังคงสานต่อในชีวิตของนุ๊กตลอดไป
สายด่วนจูมิ Juimi Express
นุ๊กขี่จักรยานข้ามท่าเรือไปส่งของอย่างขะมักเขม้น บนถนนที่พาดผ่านตลาดกุ้งอันคึกคักเสียงเอะอะ ระหว่างทางนุ๊กชอบมองกังหันลมสีเหลืองสดใสที่ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง มันช่วยเติมแต่งบรรยากาศให้ดูมีชีวิตชีวา น่าหลงใหลยิ่งนัก
แต่ละวันนุ๊กมีภารกิจสำคัญ นั่นก็คือการนำพาความในใจของผู้คนจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง เขาภูมิใจนักที่ได้ทำหน้าที่คล้ายกับคิวปิดน้อยผู้ซื่อสัตย์ เชื่อมโยงหัวใจของผู้คนเข้าด้วยกันผ่านบริการ “จูมิ เอ็กซ์เพรส” สุดพิเศษ เวลาที่นุ๊กได้รับฝากความรู้สึกดีๆ อย่างคำขอบคุณ คำให้กำลังใจ หรือคำอวยพรต่างๆ จากลูกค้า เขาจะยิ่งปั่นจักรยานไปอย่างเต็มกำลัง ด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่อยู่ในความดูแลของเขานั้นล้ำค่าเพียงใด และเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องนำพามันไปถึงปลายทางให้ได้
จูมิ เอ็กซ์เพรส คือบริการขนส่งความสุขชั้นดี ที่มีนุ๊กเป็นกำลังสำคัญ ไม่เพียงแต่จะส่งมอบพัสดุธรรมดาเท่านั้น แต่ยังส่งต่อความรู้สึกดีๆ ระหว่างผู้คน ด้วยการบริการที่เป็นมิตร เต็มไปด้วยรอยยิ้มและพลังบวก ราวกับว่าตัวนุ๊กเองก็กลายเป็นสัญลักษณ์แทนความสดใสและความหวังดีในตัวเสียแล้ว
ป่ามนตรา Magic Forest
เมื่อนุ๊กก้าวเข้าสู่ป่ามนตรา สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือเห็ดขนาดใหญ่เต็มไปหมด มันดูแปลกตาแต่ก็สวยงามน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน ราวกับเป็นประตูมิติที่จะพาเขาไปสู่ดินแดนเวทมนตร์อันน่าอัศจรรย์ นุ๊กหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่ใต้ต้นเห็ดขึ้นมา ปกหนังสือมีลวดลายวิจิตรตระการตา แต่แปลกที่ไม่มีชื่อหนังสือ พอเขาเปิดหนังสือออกดู บนหน้ากระดาษที่เหลืองเก่ากาลปรากฏอักขระโบราณและภาพวาดประหลาด นุ๊กค่อยๆ อ่านคาถาเวทมนตร์ออกมาอย่างระมัดระวัง
จู่ๆ ก็มีกระต่ายสีขาวตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากหน้าหนังสือ มันยืนสองขาแล้วโค้งคำนับนุ๊กอย่างสุภาพ ก่อนจะเชิญชวนเขาให้ติดตามมันไปยังส่วนลึกของป่ามนตรา
มันนำพานุ๊กมายังพื้นที่โล่งกว้างที่ถูกล้อมรอบด้วยวงแหวนเห็ด ดูคล้ายเวทีการแสดงขนาดยักษ์ กระต่ายกระโดดขึ้นไปยืนบนเห็ดตรงกลาง ชูไม้กายสิทธิ์ขึ้นแล้วร่ายคาถา แสงสีรุ้งสาดส่องมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ เกิดเป็นภาพลวงตาน่าอัศจรรย์นานัปการ
การผจญภัยที่น่าตื่นเต้นในป่ามนตราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และนุ๊กก็พร้อมจะเผชิญกับทุกเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ที่จะมาถึง ด้วยความช่างฝันและกล้าลุย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็เชื่อมั่นว่ามันจะเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหนอย่างแน่นอน
เครื่องเล่นระลอกคลื่น Ripple Record Player
บรรยากาศสงบเงียบของทะเลสาบถูกเจือด้วยเสียงคลื่นที่ซัดสาดกระทบฝั่ง ก่อให้เกิดสายน้ำพุ่งกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า เหมือนกับซิมโฟนีธรรมชาติที่บรรเลงขับกล่อมจิตใจให้เคลิบเคลิ้ม นุ๊กนั่งมองภาพที่ปรากฏตรงหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พลางอมยิ้มกับตัวเองที่ได้มาพบกับบทสรุปแห่งความสุขในวันนี้เข้าให้แล้ว
จากนั้นก็มีลูกแมวน้อยน่ารักตัวหนึ่งแอบย่องเข้ามาหา ราวกับรู้ใจว่านุ๊กกำลังต้องการเพื่อนเล่น พวกมันจึงชวนกันเต้นรำไปมาบนระลอกน้ำ ท่าทางน่าเอ็นดูจนอดใจไม่ไหว นุ๊กอมยิ้มกว้างกับความน่ารักของเจ้าลูกแมว ก่อนจะออกมาร่วมแจมเป็นหนึ่งในแก๊งด้วย เขาเปล่งเสียงร้องเพลงเบาๆ ประสานไปกับจังหวะการเต้น เสียงร้องใสกังวานกลมกลืนไปกับบรรยากาศความสงบของผืนน้ำ มอบพลังในแบบที่ดนตรีเท่านั้นจะมอบได้
ในตอนนี้ ทะเลสาบไม่ได้เป็นเพียงสถานที่แห่งความสงบเท่านั้น หากยังคือพื้นที่สร้างสรรค์ที่เป็นมากกว่าความฝัน คล้ายผืนผ้ากำมะหยี่อันอ่อนนุ่ม ที่ถูกประดับประดาให้งดงามด้วยกิจกรรมสนุกๆ และเสียงร้องอันไพเราะจากแมวน้อยและนุ๊ก
สีสันแห่งความสุขได้ถูกเติมแต่งลงไปในทุกอณู ผ่านการเต้นรำ บทเพลง และหัวใจที่เปิดกว้างพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ ของนุ๊ก วันนี้เขาได้สัมผัสกับตำราแห่งความสุขที่มีอยู่จริงแล้ว ด้วยการปล่อยใจให้อิสระและมองหาความงามรอบตัว เพราะความสุขที่แท้จริงนั้น บางครั้งก็ซ่อนอยู่ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัวเราเองนี่เอง
หมีกับดวงดาว Bear with the Star
นุ๊กรู้สึกว่าโลกของผู้ใหญ่ช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน ทุกอย่างดูจืดชืดและไร้สีสัน ต่างจากจินตนาการอันสดใสในหัวของเขา นุ๊กจึงมักจะสวมเสื้อแจ็คเก็ตหมีเท็ดดี้ตัวโปรด เพื่อหลบซ่อนตัวเองจากความจริงอันขมขื่น และค้นหาความรู้สึกปลอดภัยท่ามกลางความอบอุ่นของขนหมีนุ่มนิ่ม
ลึกๆ แล้ว นุ๊กเป็นเด็กขี้อายที่ไม่กล้าแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา เขาเก็บงำความฝันและจินตนาการไว้ข้างใน ปิดบังมันด้วยท่าทางเงียบขรึม เหมือนหมีเท็ดดี้ที่ดูธรรมดาจากภายนอก แต่ข้างในกลับเป็นจักรวาลอันกว้างใหญ่ ที่เต็มไปด้วยดวงดาวสุกสกาวและสิ่งมหัศจรรย์มากมาย
แม้นุ๊กจะพยายามซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะปิดกั้นแสงสว่างอันงดงามที่แผ่ซ่านออกมาจากภายใน เขาแสดงมันออกมาผ่านแววตาที่เป็นประกาย ริมฝีปากที่คลี่ยิ้ม หรือความสามารถพิเศษต่างๆ โดยไม่รู้ตัว
ความพิเศษนี้เปล่งประกายผ่านเสื้อแจ็คเก็ตหมีเท็ดดี้ที่เขาสวมใส่ คล้ายว่าหมีตัวนี้ได้เก็บรวบรวมดวงดาวทั้งหมดในจักรวาลมารวมไว้ในตัว และส่องสว่างออกมาเป็นประกายระยิบระยับ สะท้อนให้เห็นถึงโลกภายในอันงดงามของเด็กน้อยคนนี้
นุ๊กอาจจะดูเหมือนเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แต่เขามีจิตใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังแห่งจินตนาการ และความฝันอันยิ่งใหญ่ที่รอวันเบ่งบาน ความพิเศษของเขาซ่อนตัวจากสายตาคนอื่น เหมือนอย่างดวงดาวที่ซุกซ่อนอยู่ในอ้อมกอดของหมีเท็ดดี้ รอคอยเวลาที่เหมาะสมเพื่อส่องแสงเจิดจรัส และทำให้โลกนี้สดใสงดงามยิ่งขึ้น
สวรรค์จันทรา Moon Heaven
น้องนุ๊กรู้สึกเหงาและไม่มีที่พึ่งพิงในโลกของผู้ใหญ่ เขาจึงตัดสินใจสร้างที่หลบภัยในแบบของตัวเองขึ้นมา นุ๊กเลือกใช้กระดาษแผ่นใหญ่มาพับเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวโค้งสวยงาม ทุ่มเทกับมันราวกับว่ากำลังสร้างงานศิลปะชิ้นเอก
แต่นุ๊กยังไม่หยุดแค่นั้น เขาหยิบสีที่เรืองแสงในความมืดขึ้นมาอีกชั้น แล้วค่อยๆ ระบายลงไปบนพระจันทร์กระดาษอย่างตั้งอกตั้งใจ ราวกับให้มันซึมซับพลังแสงสว่างเข้าไปในตัว จนเมื่อปิดไฟในยามค่ำคืน พระจันทร์เสี้ยวนี้จะส่องสว่างเรืองรองในความมืด นำทางให้นุ๊กพบความอบอุ่นและปลอดภัยเสมอ
พระจันทร์ของนุ๊กจะคอยปกป้องเขาจากความมืดมิดในโลกภายนอก ให้ความรู้สึกอบอุ่นจากแสงสว่างที่มอบให้ และเป็นเพื่อนเคียงข้างไม่ทอดทิ้งในยามยากลำบาก มันเป็นเครื่องเตือนใจว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นุ๊กก็สามารถสร้างความสุขและที่พักพิงให้กับตัวเองได้เสมอ
เด็กน้อยอาจจะรู้สึกเหงาและไม่เข้าพวกกับใคร แต่เขาไม่เคยโดดเดี่ยว เพราะมีพระจันทร์กระดาษคู่ใจที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและคอยซับน้ำตาให้เขาเสมอ ที่หลบภัยนี้จะเป็นตัวแทนของกำลังใจ ความหวัง และศรัทธาที่มีต่อตัวเอง เตือนให้รู้ว่าเขาพิเศษและมีคุณค่าในแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระจันทร์เสี้ยวนี้จะยังคงส่องสว่าง นำทางนุ๊กสู่ความสุขกาย สบายใจเสมอ
โรงละครหน้าต่าง Window Theater (Secert)
น้องนุ๊กชอบยืนมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นประจำ เพราะมันเป็นเหมือนโรงละครส่วนตัวของเขา ผ้าม่านหน้าต่างที่ปรับเปลี่ยนตามจังหวะของกลางวันกลางคืน ราวกับฉากหลังบนเวทีที่สลับสับเปลี่ยนไปตามการดำเนินของเรื่องราว
กรอบหน้าต่างนั้นเหมือนกระจกสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของนุ๊ก เมื่อเธอมีความสุข ภาพที่เห็นคือท้องฟ้าสดใสสีครามผ่านกิ่งไม้เขียวขจี แต่เมื่อเธอเศร้า ภาพนั้นก็พลันเปลี่ยนเป็นสายฝนพรำพรูบนพื้นดินเปียกชื้น หน้าต่างนี้เป็นเหมือนตัวแทนของโลกภายในจิตใจของน้องนุ๊ก
ทุกครั้งที่นุ๊กยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานนั้น เธอจะรู้สึกราวกับได้ขึ้นไปอยู่บนเวทีการแสดง ที่ซึ่งเขาสามารถเป็นได้ทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นใคร นักผจญภัย หรือแม้กระทั่งยอดนักประดิษฐ์ มันเป็นพื้นที่พิเศษที่เขากล้าแสดงออก โลดแล่นไปกับจินตนาการได้อย่างเต็มที่
นุ๊กเชื่อว่าทุกคนก็เหมือนกัน ต่างเป็นตัวละครเอกในละครชีวิตของตัวเอง เวลายืนอยู่บนหน้าต่างของใครสักคน มันเหมือนเรากำลังชมการแสดงชั้นเลิศที่ไม่มีใครเหมือน ทุกคนล้วนโดดเด่นในบทบาทของตัวเอง และไม่ควรถูกเปรียบเทียบกับผู้อื่น
โรงละครหน้าต่างที่นุ๊กมองออกไปทุกวัน จึงเป็นส่วนหนึ่งของการค้นหาตัวตน การเติบโตทางความคิด และการเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าในตัวเองให้มากขึ้น เธอตระหนักว่าชีวิตคือการแสดงที่พิเศษเพียงหนึ่งเดียว และในฐานะพระเอกของเรื่อง เธอจะต้องกล้าที่จะออกแบบบทบาทตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อสร้างเรื่องราวอันน่าจดจำบนเวทีชีวิตที่มีเพียงหนึ่งเดียวนี้