Last Updated on October 25, 2021
ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ Howl’s Moving Castle
ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ Howl’s Moving Castle เป็นภาพยนตร์อนิเมะแฟนตาซีของญี่ปุ่น เขียนบทและกำกับโดยฮายาโอะ มิยาซากิแห่งสตูดิโอจิบลิ ได้เค้าโครงเรื่องมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ เรื่องราวของโซฟี แฮตเตอร์ อายุ 18 ปี เป็นลูกสาวคนโตของร้านทำหมวก ที่ถูกแม่มดหญิงชราสาปให้กลายเป็นคนแก่ ต่อมาเธอได้ออกเดินทางและไปที่ปราสาทเวทมนต์ของฮาวล์ เรื่องราวแห่งโชคชะตาท่ามกลางความขัดแย้งของสงครามระหว่าอาณาจักร ความรักระหว่างหัวใจสองดวง ที่จะทำให้หัวใจอบอุ่นทุกครั้งที่ได้รับชม
เนื้อเรื่องย่อ (สปอยยับ) Howl’s Moving Castle
โซฟีเป็นเจ้าของร้านทำหมวกที่ได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเธอ วันนี้เธอตั้งใจจะไปเยี่ยมน้องสาวของเธอชื่อเรตตี้ ที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนึ่ง ในวันนี้ในเมืองได้มีงานฉลอง มีการเดินพาเหรด สวนสนามโดยทหาร ชาวเมืองต่างออกมาฉลองกันอย่างคับคั่ง ระหว่างทางที่เธอจะไปหาน้องสาวเธอนั้นได่มีทหารสองนาย ได้เข้ามาชวนเธอไปเที่ยว แต่เธอตอบปฏิเสธไป แต่ทหารทั้งสองคนนั้นไม่ยอมพยายามตื๊อเธอ แต่ทันใดนั้นได้มีชายหนุ่มปริศนามาช่วยเธอเอาไว้ และบอกว่าเขาเป็นแฟนเธอและชี้นิ้วให้ทหารหนีไปราวกับมีเวทมนต์
ชายคนนั้นบอกกับโซฟีว่า เขาหนีอะไรบางอย่างอยู่ให้ตามเขาไป ทันใดนั้นได้มีกลุ่มเงาสีดำปรากฏขึ้นและวิ่งไล่ตามพวกเขาไปตามซอยแคบๆ ชายคนนั้นพาโซฟีหนี โดยลอยลิ่วไปบนอากาศ และไปส่งโซฟียังร้านอาหารที่น้องของเธอทำงานอยู่โดยสวัสดิภาพ โซฟีได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้น้องของเธอฟัง เรตตี้บอกว่าเขาคนนั้นอาจเป็นพ่อมดฮาวลก็ได้ และก็เตือนให้โซฟีระวังตัวเพราะเธอได้ยินมาว่า พ่อมดฮาวล์นั้นจะกินหัวใจของสาวสวย โซฟีฟังด้วยท่าทางนิ่งเฉยเพราะเธอคิดว่าเธอนั้นไม่ใช่คนสวยอะไร พ่อมดฮาวล์คงไม่สนใจ
ตกดึกคืนนั้นในร้านของเธอ มีผู้หญิงวัยกลางคนร่างอ้วน ใส่ชุดสีดำดูหรูหราเดินตามเธอเข้ามาในร้าน และปรามาสร้านของเธอว่า ร้านกระจอกๆของคนกระจอกๆ โซฟีเดินไปเปิดประตูและไล่หญิงคนนั้นออกไป ทันใดนั้นหญิงคนนั้นได้แปลงกายเป็นแม่มดแห่งทุ่งร้าง เธอได้สาปโซฟีและไม่ให้บอกใคร เธอยังฝากคำพูดปริศนาไว้ว่า ฝากถึงฮาวล์ด้วยนะ และเธอก็จากไป ด้วยฤทธิ์แห่งคำสาปโซฟีได้กลายร่างเป็นคนแก่ไปเสียแล้ว เธอพยายามบอกให้ตัวเองใจเย็นลง
วันรุ่งขึ้นเธอตั้งใจเดินทางไปยังหุบผายอดหมวก ที่อยู่ของบรรดาพ่อมด ทั้งหลายซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านไม่อยากจะไป ระหว่างทางเธอได้เจอท่อนไม้แปลกๆ ปักในพุ่มไม้เธอหวังว่าจะเอามาทำเป็นไม้เท้าเพื่อเดินสู่ยอดเขา เมื่อเธอดึงมันออกมา มันกลับกลายเป็นหุ่นไล่กาที่มีชีวิตเพราะเวทมนต์ เธอออกเดินทางต่อและก็ได้เจ้าหุ่นไล่กาเอาไม้เท้ามาให้ เธอขอบคุณอย่างเต็มใจและรับไม้เท้านั้นไว้ เธอยังขอร้องให่หุ่นไล่กาหาที่พักให้เธอ
เมื่อเธอเดินไปได้อีกซักครู่เธอได้พบกับปราสาทของฮาวล์ และเจ้าหุ่นไล่กาตัวนั้น ปราสามของฮาวล์นั้น เป็นปราสาทที่เดินได้ มันมีขนาดใหญ่โตมหึมาและมีขา 4 ขาไว้สำหรับเดินไปเดินมา และสามารถหายใจได้ราวกับมีชีวิต หุ่นไล่กาทำท่าทีเชิญชวนเธอเข้าไปในปราสาท แต่ทันใดนั้นปราสาทได้เคลื่อนไหว โซฟีวิ่งตามปราสาทเพื่อที่จะเข้าไปนตัวปราสาท ในที่สุดเธอก็วิ่งตามได้ทัน แม้ว่าเธอจะอยู่ในสภาพหญิงชราก็ตามที
เมื่อเข้ามาด้านในตัวปราสาท เธอได้นั่งผิงไฟเพื่อคลายความหนาวแต่ก่อนที่เธอจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้า ไฟในเตาผิงได้พูดกับเธอ มันชื่อแคลซิเฟอร์ มันบอกว่าคำสาปของโซฟีไม่ได้แก้ได้ง่ายๆ เจ้าแคลซิเฟอร์จึงยื่นข้อเสนอให้เธอว่าถ้าเธอช่วยปลดปล่อยมันจากฮาวล์ได้ มันจะแก้คำสาปให้เธอ แคลซิเฟอร์นี้เองที่ทำให้ปราสาทหลังนี้เดินได้ แต่ก่อนที่โซฟีจะตอบตกลงหรือปฏิเสธเธอก็ได้ผล็อยหลับไป
ในวันรุ่งขึ้นได้มีเด็กชายคนหนึ่งพบโซฟีนอนอยู่บนโซฟา แต่เด็คนนี้ไม่มีท่าทีตกใจอะไรเขาชื่อว่า มาเคิล ทันใดนั้นมีเสียงกริ่งดังขึ้นเขาปลอมตัวเป็นชายแก่หนวดเคราเฟิ้มสวมผ้าคลุม ไปเปิดประตู เขาเปลี่ยนประตูที่มีสีกำกับ เขาเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำเงิน พอแง้มประตูเปิดออกเขาได้พบนายกของเมืองได้นำจดหมายของกษัตริย์มาให้ฮาวล์ หมายจะให้ฮาวล์เตรียมตัวออกรบเพื่อปกป้องดินแดนแห่งนี้ มาเคิลรับจดหมายแล้วก็เดินมาถามโซฟีว่าเข้าปราสาทแห่งนี้มาได้อย่างไร โซฟีตอบว่าแคลซิเฟอร์เป็นคนให้เธอเข้ามา อีกไม่กี่อึดใจกริ่งประตูก็ดังอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงปลายทางคือเมืองคิมเบอร์ลี่ หัวหน้าทหารจากเมืองนั้นนำจดหมายจากกษัตริย์มาให้ฮาวล์ เพื่อเข้ารว่มสงคราวเช่นกัน
โซฟีได้ออกจากประตูมองออกไป เธอได้ยลโฉยเมืองคิมเบอร์ลี่กับตาเธอตื่นเต้นมาก เพราะเธอไม่เคยเห็นเเมืองใหญ่ขนาดนี้มาก่อน มาเคิลได้เดินมาปิดประตูและเดินเข้าปราสาทไป แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น โซฟีได้เปิดประตูสีเขียวออกไปนั่นเป็นประตูที่อยู่ใต้ปราสาท พอเธอเปลี่ยนเป็นฟ้าคราวนี้ก็โผล่มาอีกเมืองหนึ่ง โซฟีได้หันกลับไปถามมาเคิลว่าประตูสีดำจะเปิดไปที่ไหน มาเคิลตอบว่าไม่มีใครรู้นอกจากฮาวล์ และตอนนี้เขาหิวข้าวแล้ว โซฟีเหลือบไปเห็นเบคอนกับไข่ จึงตั้งใจจะทำอาหารให้มาเคิลกิน แต่มาเคิลก็บอกว่าถ้าฮาวล์ไม่อยู่ก็ไม่มีใครสามารถใช้ไฟได้ เพราะแคลซิเฟอร์ไม่เชื่อฟังคำสั่งใครนอกจากฮาวล์ โซฟีไม่สนใจกลับขู่แคลซิเฟอร์ว่าถ้าไม่ยอมจะบอกฮาวลฺ เรื่องที่เราตกลงกัน เจ้าไฟเลยยอมช่วยทำอาหารอย่างเสียไม่ได้
ทันใดนั้นประตูสีดำได้เปิดออก ฮาวล์ได้ก้าวเท้าเข้ามาในประตูแล้วถามโซฟีว่า เธอคือใคร โซฟีตอบกลับไปว่าเธอคือแม่บ้านคนใหม่ที่แต่งตั้งตัวเองขึ้นมา ฮาวล์เข้ามาช่วยเธอทำอาหารโดยไม่ได้ถามอะไรต่อ ในปราสาทดูสกปรกมาก ทั้งจานอาหาร ช้อนส้อม แต่ก่อนจะลงมือทานอาหารฮาวล์ได้ถามว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อของโซฟี มันคือแผ่นกระดาษสีแดงซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร พอเธอยื่นกระดาษนั้นให้ฮาวล์ มันก็เกิดการระเบิดทันที และไหม้ติดโต๊ะไป ฮาวล์บอกว่านี่คือเวทมนต์เก่าแก่ของแม่มดในทุ่งร้าง มันเขียนว่า “ผู้กลืนดาวตก บุรุษผู้ไร้หัวใจ หัวใจเจ้าเป็นของข้า” นั่นหมายถึงฮาวล์เขาได้ใช้มือลบรอยไหม้นั้นออกไปจากโต๊ะและบอกว่าถึงข้อความหายไปแต่คำสาปยังคงอยู่
เมื่อทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วโซฟีได้เริ่มการทำความสะอาดปราสาทครั้งใหญ่ ฝุ่นควันได้คลุ้งไปทั่วปราสาท ดูเหมือนเจ้าแคลซิเฟอร์จะอ่อนแรงและดับลงเพราะไม่มีฟืน แต่ก็ได้ฮาวล์มาช่วยไว้ โดยชุบชีวิตเขา แล้วบอกกับโซฟีว่า “อย่าแกล้งเพื่อนของเขาสิ อย่าทำความสะอาดมากจนเกินไปนะ” แล้วก็เปิดประตูสีดำแล้วก็กระโดดหายไปกับความมืด ระหว่างที่ทำความสะอาดโซฟีได้เห็นกิ่งไม้ยื่นออกมาจากปราสาท พอหยิบขึ้นมาปรากฏว่าเป็นเจ้าหุ่นไล่กา แคลซิเฟอร์ได้บังคับปราสาทมาหยุดอยู่ที่ทะเลสาบแห้งหนึ่งเพื่อที่จะให้ทุกคนได้หยุดพักผ่อน
คืนนั้นฮาวล์ได้กลับมาจากประตูสีดำด้วยความเหนื่อยอ่อน หมดแรงเต็มที สภาพของเขานั้นอยู่ในร่างปิศาจ เขาบาดเจ็บจากการสู้รบในสงครามมา ในวันรุ่งขึ้นเขาวิ่งโวยวายออกมาห้องน้ำเพราะว่าโซฟีได้ทำความสะอาดห้องน้ำ ทำให้เวทมนต์ของเขาเสื่อม และทำให้ความมั่นใจในรูปลักาณ์ของเขาหายไป ตอนนั้นเขาได้เรียกภูติแห่งความมืดออกมาโดยไม่รู้ตัว และตัวของฮาวล์เองก็มีเมือกสีเขียวออกมา โซฟีได้อุ้มฮาวล์ขึ้นไปที่ปราสาทชั้นสอง เพื่อที่จะล้างตัว เมื่อฮาวล์หายดีเขาได้บอกกับโซฟีว่า จริงๆแล้วเขาเป็นคนขี้ขลาด แต่ก่อนเขาเคยเข้าหาแม่มดแห่งทุ่งร้าง แต่ตอนนี้เขากลัวเธอมาก เขาเลยหนีเธอตลอดเวลา นอกจากนี้เขายังวานให้โซฟีไปเข้าเฝ้ากษัตริย์แทนโดยไปในนามแม่ของฮาวล์ และเขาก็ได้มอบแหวนให้เธอเป็นเครื่องรางเพื่อความปลอดภัย แล้วบอกว่าเขาจะตามเธอไป
ระหว่างที่เธอเดินทางไปยังวัง มีหมาขาสั้นตัวหนึ่งเดินตามเธอมา เธอได้พบกับแม่มดแห่งทุงร้างเธอบอกว่าถูกกษัตริย์เรียกมาพบเหมือนกัน ทั้งคู่ได้เดินเข้าไปพบกับกษัตริย์โดยมีเจ้าหมาเดินตามไปด้วย เมื่อแม่มดแห่งทุ่งร้างเจอเก้าอี้เธอนั่งลงพักด้วยความเหนื่อยอ่อนทันที แต่เจ้าหมากลับนำทางโซฟีไปยังอีกห้อง ในห้องนั้นเธอเจอกับแม่มดสุไลมาน แม่มดประจำพระองค์ แม่มดสุไลมานบอกขึ้นมาว่าฮาวล์เป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของเธอ แต่เขามีพลังมากไปสำหรับคนไร้หัวใจ และอีกไม่นานเค้าจะเป็นเหมือนแม่มดแห่งทุ่งร้างซึ่งตอนนี้เธอเป็นคนธรรมดาไปแล้วไม่มีเวทมนต์อีกต่อไป เพราะเธอไม่อยากให้แม่มดที่เป็นปิศาจอยู่ในประเทศนี้อีกต่อไป
โซฟีโมโหสิ่งที่แม่มดสุไลมานกล่าวมากเพราะฮาวล์หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ตอนนั้นโซฟีได้กลับไปเป็นสาวอีกครั้งหนึ่ง กษัตริย์เดินสวนเข้ามาพอดีและกล่าวทักทายทุกคน จังหวะนั้นมีกษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งเดินเข้ามาเหมือนกัน สรุปแล้วกษัตริย์คนแรกที่เข้ามาคือฮาวล์ เขากำลังจะรับตัวโซฟีไป แม่มกสุไลมานไม่ยอมให้ทั้งคู่ไป และเปิดฉากต่อสู้ก่อน เธอได้สร้างภาพลวงตาขึ้นและทำให้ฮาวล์กลายเป็นปิศาจ แต่เขาก็ได้โซฟีดึงสติเอาไว้และพาโซฟีหนีสำเร็จ เจ้าหมาติดตามไปด้วย ทั้งสามคนบินไปที่เครื่องบิน ฮาวล์บอกว่าให้เอาแหวนหนีไปทางปราสาทเขาจะอยู่สู้กับทหารที่นี่ โซฟีได้ทำตามและหนีเข้าปราสาทอย่างปลอดภัย
วันรุ่งขึ้นฮาวล์ก็บอกทุกคนว่า วันนี้เราจะย้ายบ้านกัน เขาได้เขียนสัญลักษณ์บางอย่างภายนอกปราสาท วิธีย้ายบ้านของเขาก็คือใช้เวทมนต์ของแคลซิเฟอร์ เมื่อย้ายสำเร็จเขาจึงแสดงให้เห็นว่า ประตูสีเหลืองคือร้านทำหมวกของโซฟี สีแดงคือทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ที่มีดอกไม้นานาพรรณที่เขาโปรดปราน สิ่งที่เขาทำทุกอย่างนั้นก็เพื่อโซฟี ณ กลางทุ่งหญ้าแห่งนั้นมีกระท่อมน้อยที่เขาเคยอยู่ตอนเด็กๆ ในตอนนี้เขาทั้งคู่มีความสุขอย่างมาก และคำสาปก็ได้หายไปเพราะความรักสามารถแก้คำสาปได้ ทันใดนั้นเองเขาก็ได้เห็นยานอวกาศของแม่มดสุไลมานที่ตามล่าพวกเขาอยู่ ฮาวล์ได้แปลงร่างเป็นปิศาจและไปส่งที่ประตู
วันรุ่งขึ้นแม่ของโซฟีมาเยี่ยมที่ร้านทำหมวก แต่เธอไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่โซฟีกลายเป็นคนแก่ ก่อนเธอจะกลับเธอได้ทิ้งห่อสีม่วงเอาไว้ พอยายแม่แห่งทุ่งร้างมดมาเปิดเปิดถุงมันเป็นมนต์ดำของแม่มดสุไลมานที่มาตามสืบตำแหน่งของปราสาท แม่มดโยนเงาดำนั้นให้แคลซิเฟอร์กินทำให้แคลซิเฟอร์อ่อนแรงและดับไป โซฟีพยายามจุดแคลซิเฟอร์อีกครั้งแต่ไม่เป็นผล ทันใดนั้นเกิดสงครามขึ้นกลางเมือง ไฟได้ไหม้ลามเป็นทะเลเพลิง เมื่อมองออกมาจากร้านทั้งเมืองได้แดงฉานน่ากลัวมาก แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบได้เธอได้กลับเป็นสาวอีกครั้ง ตอนนั้นเองมีลูกเพลิงระเบิดตรงดิ่งมาทางเธอ แต่ก็ได้พ่อมดฮาวล์ช่วยไว้ได้อย่างหวุดหวิด ฮาวล์ได้ให้พลังแก่แคลซิเฟอร์จนมันมีชีวิตอีกครั้ง
โซฟีบอกกับฮาวล์ว่าให้หนีไปจากเธอ ฮาวล์ปฏิเสธเขาบอกว่าเขาพบคนที่ต้องปกป้องแล้วนั่นคือโซฟี และครั้งนี้เขาจะไม่หนีอีกแล้วฮาวล์แปลงร่างเป็นปิศาจและกลับไปสู้ในสงครามอย่างกล้าหาญ โซฟีรีบไปที่ประตูจากสีเหลืองเป็นสีเขียวและบอกว่าถ้าเราไม่หนีฮาวล์จะสู้ไม่เลิก แคลซิเฟอร์บอกว่าถ้าเขาออกไปจากปราสาทมันจะพังทันที โซฟียังยืนยันให้แคลซิเฟอร์ออกมา ปราสาทพังลงทันที ข้างนอกนั้นยานบินของศัตรูเต็มท้องฟ้าไปหมด โซฟีเลยรีบหนีกลับเข้าปราสาทเพราะกลัวอันตราย เธอขอร้องให้แคลซิเฟอร์หาฮาวล์ให้เธอ แคลซิเฟอร์ที่ตอนนี้ต้องการพลัง เห็นดังนั้นโซฟีเลยตัดผมเปียของเธอโยนให้แคลซิเฟอร์กินและทำให้มันมีพลังเพิ่มขึ้น มันเคลื่อนที่ซากปราสาทที่บัดนี้เหลืออยู่เพียงส่วนเล็กๆ แคลซิเฟอร์บอกว่าถ้าได้กินตาหรือหัวใจ มันจะมีพลังมากกกว่านี้ ยายแม่มดรู้ว่าฮาวล์ได้ให้หัวใจของเขากับโซฟีไว้ ซึ่งเมื่อก่อนเธออยากได้มันมาก เธอเลยหยิบมันออกมาจากเตาทำให้ตอนนี้แคลซิเฟอร์ ไม่สามารถบังคับปราสาทได้แล้ว
ยายแม่มดบอกว่าวันร้อนมาก โซฟีเลยเอาน้ำสาดดับไฟนั่นทำให้ปราสาทแยกออกจากกันและตกลงเหว เพราะแคลซิเฟอร์ไม่มีพลังเพียงพออีกต่อไป เจ้าหมากับโซฟียังปลอดภัยแต่เธอเสียใจมากที่สาดน้ำใส่หัวใจ เพราะนั่นอาจทำให้ฮาวล์ตายไปด้วย และทันใดนั้นแหวนที่ฮาวล์ให้โซฟีไว้ก็ส่องแสงนำทางเธอ มันชี้ไปที่ประตูปราสาท ซึ่งในขณะนี้มันเป็นสีดำ โซฟีรีบวิ่งเข้าไปในประตูและกระโดดเข้าไปทันที เจ้าหมาก็วิ่งตามเข้าไปด้วย เธอได้โผล่ออกมาที่กระท่อมกลางทุ่งในคืนนั้นมีดาวตกพุ่งลงมามากมาย และเห็นฮาวล์ในวัยเด็กรับดาวตกนั้นเอาไว้ เขาได้กินดาวตกแล้วหัวใจเขาก็หลุดออกมาพร้อมแคลซิเฟอร์ ตอนที่ฮาวล์ถอดหัวใจก็เกิดหลุดดูดโซฟีลงไป ก่อนตกโซฟีได้ตะโกนว่า “ฉันชื่อโซฟี ทั้งสองคนรอฉันที่อนาคตด้วยนะ”
โซฟีได้กลับออกมาผ่านประตูและเจอฮาวล์ในร่างปิศาจเธอขอโทษเขาที่เธอมาช้า เธอจูบฮาวล์และขอให้เขาพาเธอไปพบแคลซิเฟอร์ ส่วนอีกด้านหนึ่งทุกคนปลอดภัยดี เมื่อฮาวล์บินมาถึง เขาก็สลบไป โซฟีบอกให้แม่มดคืนหัวใจให้เขาเพราะมันสำคัญกับเธอมาก และเธอจะดูแลเขาอย่างดี ยายแม่มดเลยคืนหัวใจให้ โซฟีถามว่าถ้าเธอคืนหัวใจให้ฮาวล์แคลซิเฟอร์จะตายหรือเปล่า แคลซิเฟอร์ตอบว่ามันก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอได้ใส่หัวใจของฮาวล์คืนไป จากนั้นปรากฏว่าแคลซิเฟอร์ไม่ตายมันบินหนีไป ปราสาทพังลงทันทีและตกลงไปในเหว แต่ก็ได้เจ้าหุ่นไล่กาช่วยเบรกไว้ได้และช่วยชีวิตทุกคน โซฟีจุพิตขอบคุณมันไปหนึ่งที ทันใดนั้นเจ้าหุ่นไล่กาได้คืนร่างเป็นเจ้าชายจากประเทศข้างๆที่ต้องคำสาป วิธีถอนคำสาปคือ ต้องได้รับจุมพิตจากคนที่เรารัก ฮาวล์ได้ฟื้นขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ส่วนเจ้าหมาก็ดีใจไม่แพ้กัน แม่มดสุไลมานที่แอบดูอยู่ก็บอกว่าได้เวลายุติสงครามแล้ว เพราะเจ้าชายอีกอาณาจักรนึงจะประกาศหยุดสงครามครั้งนี้ แคลซิเฟอร์ได้กลับมาหาทุกคนเพราะทุกคนคือครอบครัวของมัน และเรื่องราวก็จบลงอย่างมีความสุข
ขายของเล่นตุ๊กตาปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ Howl’s Moving Castle
ดูตัวอย่างเรื่องปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ Howl’s Moving Castle
www.rinrinworld.com/home/ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์
ภาพประกอบ: pinterest
เนื้อหาบางส่วน: Youtube
Howl’s Moving Wiki
Howl’s Moving Castle fandom
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Shopee: https://shopee.co.th/rinrinworld
– Facebook: https://www.facebook.com/rinrinworldshop/
– Website: https://www.rinrinworld.com/