Last Updated on September 13, 2022
นิทานอีสป เจ้าของโรงโม่ ลูกชายของเขา และลา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าของโรงโม่แก่อยู่คนหนึ่ง เขาและลูกชายของเขากำลังเดินทางไปที่ตลาดพร้อมด้วยลาหนึ่งตัว พวกเขาคาดหวังที่จะนำลาตัวนี้ไปขาย พวกเขาค่อยๆ เดินทางไปอย่างช้าๆ เนื่องจากพวกเขาคิดว่าเขาอาจจะขายลาได้ในราคาที่หากว่าเขาสามารถรักษาลาตัวนี้ให้อยู่ในสภาพที่ดีได้
ในขณะที่เจ้าของโรงโม่และลูกชายของเขาเดินจูงลาไปตามทางหลวง ได้มีนักเดินทางบางคนหัวเราะเยาะพวกเขา และพูดว่า
“พวกเจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียนี่กระไร พวกเจ้าเดินจูงลาทั้งๆ ที่พวกเจ้าสามารถขี่มันได้ ช่างโง่เง่าเสียจริง”
เจ้าของโรงโม่ไม่ชอบใจอย่างมากที่ถูกหัวเราะเยาะ เขาจึงได้บอกให้ลูกชายของเขาขึ้นไปขี่ลาซะ
เมื่อพวกเขาเดินไปตามทางหลวงอีกสักพัก ก็ได้พบกับพ่อข้าสามคนเดินผ่านมา พวกเขาพูดว่า
“โอ้ พวกเจ้ากำลังทำอะไรเนี่ย เจ้าควรเคารพในผู้เฒ่าผู้แก่ หนุ่มน้อย ลงจากหลังลาซะ แล้วให้ผู้เฒ่าขี่”
แม้ว่าเจ้าของโรงโม่จะไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอะไร แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้น เขาก็ได้ให้ลูกชายของเขาลงจากหลังลา และเขาก็ได้ขึ้นไปขี่ลาแทน เพื่อเอาใจพ่อค้าพวกนั้น
เมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงประตูเมือง พวกเขาได้เดินแซงผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ถือตะกร้าใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ตลาด ซึ่งในตะกร้านั้นเต็มไปด้วยผักและของอื่นๆ เพื่อนำไปขาย
หนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้นกล่าวว่า “ดูคนแก่ผู้โง่เขลานั่นสิ ปล่อยให้เด็กน้อยที่น่าสงสารต้องเดินตามต้อยๆ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจ้าของโรงโม่รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่เพื่อตามใจผู้หญิงเหล่านั้น เจ้าของโรงโม่เลยได้เรียกให้ลูกชายของเขาขึ้นมาขี่บนหลังลาด้วยกัน
พวกเขาได้เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง และก็มีเสียงตะโกนดังมาจากคนอีกกลุ่มหนึ่งบนท้องถนนว่า
“นี่มันเป็นอาชญากรรมชัดๆ เจ้าลาที่น่าสงสารที่ถูกคนถึงสองคนกำลังขี่มันอยู่ จะดีกว่าไหมถ้าพวกเจ้าสองคนช่วยกันแบกเจ้าลานี้ไป”
คนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “พวกเขากำลังจะนำเจ้าลาที่น่าสงสารนี้ไปขายในตลาดสินะ”
เจ้าของโรงโม่และลูกชายได้รีบตะกายลงจากหลังของเจ้าลาอย่ารวดเร็ว และแบกเจ้าลาไปแทน หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้เกิดความโกลาหนขึ้นที่ตลาด เมื่อผู้คนเห็นสองพ่อลูกเดินมาพร้อมกับแบกลาที่ถูกผูกห้อยลงมาจากไม้คาน ผู้คนจำนวนมากต่างก็วิ่งออกมาดูภาพแปลกตาที่หากดูได้ยากอย่างใกล้ชิด
เจ้าลาซึ่งขณะนี้ได้ถูกผูกขาไว้กับไม้คานที่สองพ่อลูกกำลังแบกอยู่ไม่ค่อยชอบใจกับการถูกมัดถูกแบกแบบนี้ มีผู้คนหลายคนที่ชี้มาที่มันแล้วก็หัวเราะเยาะเย้ยและโห่ร้องตะโกน เจ้าลาเริ่มรู้สึกไม่พอใจ มันเริ่มกระทุ้งขาเตะและร้องครวญคราง และในขณะที่เจ้าของโรงโม่และลูกชายกำลังแบกเจ้าลาข้ามสะพาน เชือกที่ผูกเจ้าลาไว้ก็ได้หลุดออก ทำให้เจ้าลาตกลงไปในแม่น้ำและจมหายไป
เจ้าของโรงโม่กับลูกชายผู้น่าสงสาร ตอนนี้พวกเขาต้องเดินทางกลับบ้านด้วยมือเปล่าอย่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก พวกเขาพยายามทำให้ทุกคนที่พวกเขาเดินทางผ่านพอใจ และในท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องเสียเจ้าลาไปโดยที่ยังไม่ได้ขายมันอีกด้วย
The Miller, His Son, and the Ass
One day, a long time ago, an old Miller and his Son were on their way to market with an Ass that they hoped to sell. They drove him very slowly, for they thought they would have a better chance to sell him if they kept him in good condition. As they walked along the highway some travelers laughed loudly at them.
“What foolishness,” cried one, “to walk when they might as well ride. The most stupid of the three is not the one you would expect it to be.”
The Miller did not like to be laughed at, so he told his son to climb up and ride.
They had gone a little farther along the road when three merchants passed by.
“Oh, what have we here?” they cried. “Respect old age, young man! Get down, and let the old man ride.”
Though the Miller was not tired, he made the boy get down and climbed up himself to ride, just to please the Merchants.
At the next turnstile, they overtook some women carrying market baskets loaded with vegetables and other things to sell.
“Look at the old fool,” exclaimed one of them. “Perched on the Ass, while that poor boy has to walk.”
The Miller felt a bit vexed, but to be agreeable he told the Boy to climb up behind him.
They had no sooner started out again than a loud shout went up from another company of people on the road.
“What a crime,” cried one, “to load up a poor dumb beast like that! They look more able to carry the poor creature than he to carry them.”
“They must be on their way to sell the poor thing’s hide,” said another.
The Miller and his Son quickly scrambled down, and a short time later, the marketplace was thrown into an uproar as the two came along carrying the Donkey slung from a pole. A great crowd of people ran out to get a closer look at the strange sight.
The Ass did not dislike being carried, but so many people came up to point at him and laugh and shout, that he began to kick and bray, and then, just as they were crossing a bridge, the ropes that held him gave way, and down he tumbled into the river.
The poor Miller now set out sadly for home. By trying to please everybody, he had pleased nobody and lost his Ass besides.
คติสอนใจ นิทานอีสป เจ้าของโรงโม่ ลูกชายของเขา และลา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
If you try to please all, you please none.
“หากคุณพยายามที่จะเอาใจทุกคน จะไม่มีใครสักคนที่พอใจ”
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Shopee: https://shopee.co.th/rinrinworld
– Website: https://www.rinrinworld.com/
– TikTok: https://www.tiktok.com/@nitan.sanook/
– Youtube: นิทาน แสนสนุก