นิทานอีสป สรรพสัตว์กับโรคระบาด The Animals and the Plague

Last Updated on September 2, 2022



นิทานอีสป สรรพสัตว์กับโรคระบาด The Animals and the Plague

นิทานอีสป สรรพสัตว์กับโรคระบาด



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มีโรคระบาดที่ร้ายแรงเกิดขึ้นท่ามกลางสรรพสัตว์ทั้งหลาย สัตว์ป่าหลายๆ ตัวต้องตายไปด้วยโรคระบาดนี้ ส่วนสัตว์ป่าที่รอดมาได้แต่ก็มีอาการป่วยหนักจนพวกมันไม่สนใจที่จะหาอาหารกินหรือดื่มน้ำ เนื่องจากมันต้องลากสังขารที่ป่วยหนักไปมาอย่างเชื่องช้าและเซื่องซึม แม้แต่แม่ไก่สาวอันอ้วนพีก็ยังไม่อาจจะยั่วน้ำลายหรือกลายมาเป็นมื้อเย็นของเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่ป่วยได้ ลูกแกะเนื้อนุ่มก็ไม่อาจกระตุ้นความอยากอาหารให้เจ้าหมาป่าจอมตะกละที่ตอนนี้ป่วยไข้ได้เช่นกัน

เมื่อเวลาผ่านไป ท้ายที่สุด สิงโตเจ้าป่าก็ได้ตัดสินใจเรียกประชุมเหล่าสรรพสัตว์ขึ้น ณ ป่าแห่งนั้น เมื่อสัตว์ทุกตัวมารวมตัวกัน เจ้าสิงโตก็ได้ยืนขึ้นและกล่าวว่า

“เพื่อนพ้องสัตว์ทั้งหลายของข้า ข้าเชื่อว่าพระเจ้าได้ส่งโรคระบาดนี้มาเพื่อลงโทษในบาปของพวกเรา ดังนั้นสัตว์ที่ทำผิดที่สุดในหมู่พวกเราจะต้องถูกนำไปบูชายัญ และบางทีถ้าพระเจ้าทรงเมตตา พวกเราก็อาจจะได้รับการอภัยโทษและเป็นการเยียวยาสัตว์ทุกตัวก็เป็นได้”

เจ้าสิงโตพูดต่ออีกว่า “อันตัวข้าเอง ข้าจะสารภาพบาปของข้าก่อน ข้ายอมรับว่าข้านี้ตะกละตะกลาม แล้วก็สวาปามกินพวกแกะไปมากมาย พวกมันไม่ได้เป็นภัยแก่ข้าเลย ข้ากินทั้งแพะ วัวป่า และกวาง ถ้าจะว่าไปแล้ว บางครั้งบางคราว ข้าก็ถึงขั้นกินคนเลี้ยงแกะอีกด้วย”

“และทีนี้ หากข้าเป็นสัตว์ที่มีความผิดร้ายแรงมากที่สุด ตัวข้าก็พร้อมที่จะถูกบูชายัญ แต่ข้าก็คิดว่า มันจะเป็นการดีที่สุด หากให้สรรพสัตว์แต่ละตัวได้ออกมาสารภาพบาปของตนเองเฉกเช่นเดียวกับข้า แล้วหลังจากนั้น พวกเราค่อยมาตัดสินความยุติธรรมกันว่าผู้ใดคือผู้ที่ทำความผิดมากที่สุด”

เจ้าสุนัขจิ้งจอกได้เอ่ยขึ้นว่า “ท่านสิงโตผู้สูงส่ง ท่านดีเกินไป การกินเจ้าแกะและเจ้าแพะหน้าโง่มันจะเป็นอาชญากรรมไปได้ยังไงกัน ไม่ ไม่เลยขอรับนายท่าน ท่านสิงโตให้เกียรติพวกมันด้วยซ้ำที่กินพวกมันเข้าไปน่ะ”

“แล้วก็เรื่องของคนเลี้ยงแกะ พวกเราสรรพสัตว์ทุกตัวต่างก็รู้ดีกว่า พวกคนเลี้ยงแกะก็เป็นเพียงแค่เผ่าพันธุ์ที่เล็กกระจ้อยร่อย ที่มันแสร้งทำตัวเป็นเจ้านายของพวกเราเท่านั้นเอง”

เมื่อเจ้าสุนัขจิ้งจอกพูดจบ สรรพสัตว์ทุกตัวก็ต่างปรบมือให้ จากนั้นทั้งเสื้อ หมี หมาป่า และสัตว์ที่ดุร้ายทั้งหลาย ต่างก็ได้พร่ำพรรณาถึงความโหดร้ายที่สุดที่พวกมันเคยกระทำมา ซึ่งสัตว์ทั้งหมดก็ได้รับการอภัย และดูเหมือนจะกลายเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ราวกับว่าการกระทำของพวกมันเป็นการกระทำของนักบุญ

ถึงคราวที่เจ้าลาขึ้นมาสารภาพผิด “ข้าจำได้ดี ในวันหนึ่ง ข้าได้เดินผ่านทุ่งหญ้า ซึ่งทุ่งหญ้านี้เป็นของท่านนักบวช ด้วยความหิวโหยของข้า เมื่อเดินผ่านทุ่งหญ้านุ่มๆ ข้าก็อดใจไม่ไหว และได้แทะเล็มหญ้าเหล่านั้นเข้าไปเล็กน้อย แท้ที่จริงแล้ว ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นเลย ข้าขอยอมรับความผิด”

หลังสิ้นเสียงคำพูดของเจ้าลา สัตว์ป่าทั้งหลายก็ได้ร้องคำรามดังสนั่นลั่นป่า

สัตว์ตัวหนึ่งพูดเสียงดังขึ้นว่า “เจ้านี่เองวายร้ายที่นำมาซึ่งความหายนะของพวกเราหมู่สรรพสัตว์ทั้งปวง เรื่องนี้ช่างเป็นอาชญากรรมที่แสนชั่วร้ายเสียนี่กระไรที่เจ้าไปแทะเล็มกินหญ้าซึ่งเป็นของผู้อื่น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่พวกเราจะจับเจ้าแขวนคอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าลาโง่เง่าอย่างเจ้า”

ยังไม่ทันจะสิ้นเสียง เหล่าสัตว์ทั้งหลายต่างเข้ามารุมจับเจ้าลาโดยมีหมาป่าเป็นผู้นำ และเพียงไม่นาน เจ้าลาก็ต้องพบกับจุดจบของมัน ร่ายของเจ้าลาถูกจับนำมาบูชายัญแก่เทพพระเจ้าอย่างไม่รอช้า โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีแทนบูชา หรือพิธีการใดๆ เลยทั้งสิ้น

Line



The Animals and the Plague

Once upon a time, a severe plague raged among the animals. Many died, and those who lived were so ill, that they cared for neither food nor drink, and dragged themselves about listlessly. No longer could a fat young hen tempt Master Fox to dinner, nor a tender lamb rouses greedy Sir Wolf’s appetite.

At last, the Lion decided to call a council. When all the animals were gathered together he arose and said:

“Dear friends, I believe the gods have sent this plague upon us as a punishment for our sins. Therefore, the most guilty one of us must be offered in sacrifice. Perhaps we may thus obtain forgiveness and cure for all.

“I will confess all my sins first. I admit that I have been very greedy and have devoured many sheep. They had done me no harm. I have eaten goats and bulls and stags. To tell the truth, I even ate up a shepherd now and then.

“Now, if I am the most guilty, I am ready to be sacrificed. But I think it best that each one confesses his sins as I have done. Then we can decide in all justice who is the most guilty.”

“Your majesty,” said the Fox, “you are too good. Can it be a crime to eat sheep, such stupid mutton heads? No, no, your majesty. You have done them great honor by eating them up.

“And so far as shepherds are concerned, we all know they belong to that puny race that pretends to be our masters.”

All the animals applauded the Fox loudly. Then, though the Tiger, the Bear, the Wolf, and all the savage beasts recited the most wicked deeds, all were excused and made to appear very saint-like and innocent.

It was now the Ass’s turn to confess.

“I remember,” he said guiltily, “that one day as I was passing a field belonging to some priests, I was so tempted by the tender grass and my hunger, that I could not resist nibbling a bit of it. I had no right to do it, I admit—”

A great uproar among the beasts interrupted him. Here was the culprit who had brought misfortune on all of them! What a horrible crime it was to eat grass that belonged to someone else! It was enough to hang anyone for, much more an Ass.

Immediately they all fell upon him, the Wolf in the lead, and soon had made an end to him, sacrificing him to the gods then and there, and without the formality of an altar.



คติสอนใจ นิทานอีสป สรรพสัตว์กับโรคระบาด

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

The weak are made to suffer for the misdeeds of the powerful.

“ผู้อ่อนแอถูกลิขิตมาให้เจ็บปวดจากการกระทำอันชั่วร้าย”




กลับหน้ารวมนิทานอีสป

🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Shopee: https://shopee.co.th/rinrinworld
– Website: https://www.rinrinworld.com/
– TikTok: https://www.tiktok.com/@nitan.sanook/
– Youtube: นิทาน แสนสนุก



image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF