Last Updated on October 25, 2021
Beauty and the Beast โฉมงามกับเจ้าชายอสูร
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast เป็นภาพยนตร์ของวอลต์ดิสนีย์พิคเจอร์ (Walt Disney Pictures) ที่สร้างจากเทพนิยายเรื่อง La Belle et la Bête โดย Jeanne-Marie Leprince de Beaumont ซึ่งเป็นนิทานพื้นบ้านของฝรั่งเศส ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผลิตออกฉายในปี 1991 และได้บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าชายที่ได้กลายร่างเป็นอสูรและหญิงสาวโฉมงามที่ชื่อว่าเบลล์ (Belle) หญิงสาวแสนสวยที่มีจิตใจที่งดงาม เบลล์ต้องมารับโทษแทนพ่อของเธอ ซึ่งทำให้เธอต้องถูกคุมขังไว้ในปราสาทของอสูร ในการที่อสูรจะได้เปลี่ยนร่างกลับไปเป็นเจ้าชายอีกครั้ง เจ้าอสูรตนนี้จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ที่จะรักเบลล์และเขาต้องได้รับความรักจากเธอกลับคืนมา ก่อนที่กลีบกุหลาบอันสุดท้ายจะร่วงหล่นจากดอกกุหลาบเวทมนต์ Enchanted Rose ไม่เช่นนั้น เขาจะต้องกลายเป็นอสูรร้ายไปตลอดกาล
สปอยเนื้อเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในดินแดนอันไกลโพ้น มีเจ้าชายที่อยู่ในปราสาทอันโอ่อ่า แม้พระองค์จะมีทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ปรารถนาแต่พระองค์ก็เอาแต่ใจ เห็นแก่ตัว ไม่มีความเมตตา แต่แล้วคืนนึงในฤดูหนาว มีหญิงชราขอทานมาที่ปราสาท นางนำดอกกุหลาบดอกนึงมามอบให้เจ้าชายเพื่อขอแลกกับที่พักหลบความหนาว แต่เนื่องจากความแก่และความอัปลักษณ์ของนาง เจ้าชายมองกุหลาบอย่างเหยียดหยามพร้อมกับขับไล่หญิงชราออกไป
นางกล่าวเตือนเจ้าชายว่า “อย่าตีคุณค่าจากรูปกายภายนอกมากกว่าความงดงามจากภายใน” เจ้าชายได้ขับไล่หญิงชราอีกครั้ง จากนั้นหญิงชราหน้าตาหน้าเกลียดก็ได้กลับกลายเปลี่ยนร่างเป็นหญิงสาวผู้สวยสดงดงาม เจ้าชายพยายามจะขอโทษ แต่ก็สายเกินไป เพราะเธอรู้แล้วว่าเจ้าชายเป็นคนที่ไม่มีความรักในหัวใจ เพื่อเก็บการลงโทษ เธอสาปเจ้าชายให้เป็นอสูรร้ายหน้าตาน่าเกลียด และร่ายเวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์ครอบคลุมทั่วปราสาทและทุกคนที่อยู่ที่นั่น ทำให้เหล่าคนรับใช้ได้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านต่างๆ
ด้วยความอับอายในความอัปลักษณ์ของเจ้าชายที่ต้องกลายเป็นอสูร เขาจึงเก็บตัวซ่อนเร้นอยู่ภายในปราสาท มีเพียงกระจกวิเศษที่เป็นหน้าต่างสู่โลกภายนอก นอกจากนั้นหญิงสาวยังได้มอบดอกกุหลาบให้เจ้าชาย ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นกุหลาบวิเศษ ดอกกุหลาบจะบานจนกระทั่งเจ้าชายมีอายุครบ 21 ปี หาเขารู้จักรักใครสักคนด้วยความจริงใจและได้ความรับตอบกลับมาจากเธอผู้นั้นก่อนกลีบกุหลาบกลีบสุดท้ายจะร่วงหล่น เมื่อนั้น เจ้าชายถึงจะพ้นคำสาปนี้ ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องกลายเป็นอสูรไปตลอดกาล เวลาผ่านไปหลายปี เจ้าชายอยู่อย่างท้อแท้และสิ้นความหวัง จะมีใครกันเล่าที่ทำใจรักอสูรหน้าตาน่าเกลียดอย่างเขาได้
สิบปีต่อมา ณ เมืองที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง มีหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามและจิตใจดีมีชื่อว่าเบลล์ (Belle) เบลล์ชอบอ่านหนังสือมากและโหยหาชีวิตนอกหมู่บ้าน เธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านกับพ่อของเธอมอริซ (Maurice) ซึ่งเขาเป็นนักประดิษฐ์ เบลล์ได้ถูกหมายตาโดยกัสตอง (Gaston) นายพรานรูปหล่อร่างกำยำที่อาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งเขาหวังว่าจะได้เบลล์มาเป็นสาวคู่ใจ เขาพยายามจีบเธอแต่เบลล์ไม่สนใจ
วันหนึ่ง มอริซพ่อของเบลล์ได้ประดิษฐ์เครื่องสับไม้ได้สำเร็จ เขาได้ขี่รถออกไปเพื่อแสดงเครื่องจักรของเขาในงานประกวด แต่เขาได้หลงทางในป่าและได้เจอกับฝูงหมาป่าที่ดุร้าย ฟิลลิปม้าของเขาได้ตกใจและวิ่งหนีไป เขาพยายามหนีจากฝูงหมาป่าและได้พบเข้ากับปราสาทลึกลับของเจ้าชายอสูร เขาได้หลบฝูงหมาป่าเข้าไปในปราสาท
ภายในปราสาท มอริซได้พบกับคนรับใช้ของเจ้าชายที่ได้ถูกสาปให้เปลี่ยนรูปร่างไป ค็อกเวิร์ท Cogsworth หัวหน้าพ่อบ้านที่ได้กลายเป็นนาฬิกา ลูมิแอร์ Lumiere ชายผู้กลายเป็นเชิงเทียน ฟิฟิ Fifi สาวใช้ที่กลายเป็นไม้กวาด มิสซิสพ็อต Mrs. Potts หัวหน้าแม่ครัวที่กลายเป็นกาน้ำชา และชิป Chip ลูกชายของเธอที่กลายเป็นถ้วยน้ำชา เจ้าชายอสูรพบว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในปราสาทและได้พบกับมอริซ มอริซหวาดกลัวกลับอสูรจนตัวสั่น อสูรได้จับตัวเขาไว้
กลับมาในเมือง กัสตองได้เตรียมจัดงานแต่งงานในส่วน แต่เขายังไม่ได้สู่ขอเบลล์เลย เขาเคาะประตูบ้านเพื่อจะไปเซอร์ไพรซ์เบลล์และขอเธอแต่งงาน เบลล์ปฏิเสธกัสตองไปโดยอ้างว่าเธอไม่คู่ควรกับเขา แต่ความมุ่งมั่นของกัสตองยังคงอยู่ เค้าต้องการที่จะได้เบลล์เป็นเมีย แต่เบลล์คิดว่ากัสตองเป็นคนที่ป่าเถื่อนและขาดสมอง เธอไม่ได้ชอบเขา
ฟิลลิปม้าของมอริซได้วิ่งหนีกลับมาที่บ้าน เบลล์ได้พบเข้าก็ได้ถามหาพ่อของเธอ เพราะเขาไม่ได้กลับมาพร้อมฟิลลิป เธอได้ออกตามหาพ่อของเธอพร้อมกับฟิลลิปและได้พบกับปราสาทของเจ้าชายอสูร เธอเห็นหมวกของพ่อเธอตกอยู่หน้าประตูเลยเข้าไปในปราสาทเพื่อตามหาพ่อ และได้เจอมอริซถูกขังอยู่ในห้อง อสูรสัตว์ร้ายจับได้ว่าเบลล์แอบเข้ามาในปราสาท เบลล์พยายามพูดให้อสูรปล่อยพ่อของเธอแต่ก็ไม่เป็นผล อสูรกล่าวว่ามอริซเป็นนักโทษของเขา เบลล์ยื่นขอเสนอให้ขังเธอไว้แทน และปล่อยพ่อของเธอไป อสูรสัญญาว่าจะปล่อยพ่อของเบลล์แต่เธอต้องอยู่ที่ปราสาทนี้กับเขาตลอดไป จากนั้นอสูรก็ได้ส่งตัวพ่อเบลล์ไปที่หมู่บ้านโดยไม่ได้พ่อลูกยังไม่ได้ร่ำลากัน
ลูมิแอร์แนะนำให้เจ้าชายอสูรหาห้องดีๆ ให้เบลล์พัก เขาบอกว่าปราสาทนี้เป็นบ้านของเธอแล้วเธอจะไปไหนก็ได้ยกเว้นฝั่งปีกตะวันตกเพราะเป็นเขตหวงห้าม ลูมิแอร์ยังแนะนำให้เขาชวนเธอไปกินข้าว แต่เขากลับออกคำสั่งให้เธอไปกินข้าวกับเขา
หลังจากที่ได้กลับมาที่หมู่บ้าน มอริซวิ่งหน้าตื่นไปขอความช่วยเหลือจากกัสตอง และบอกทุกคนว่าอสูรร้ายได้จับเบลล์ขังไว้ในคุกใต้ดิน แต่ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเขาเลยและเขาถูกโยนออกไปข้างนอกเพราะเขาเป็นตาเฒ่าจอมเพี้ยน กัสตองมีแผนเพราะมอริซเป็นพ่อของเบลล์และเขายังไม่ยกเลิกความตั้งใจที่จะได้แต่งงานกับเบลล์
เบลล์ร้องไห้อยู่ในห้อง มิสซิสพ็อตและเหล่าคนรับใช้ได้ออกมาแสดงตัวให้เบลล์เห็น และได้ตามเบลล์ลงไปทานข้าว ลูมิแอร์คิดว่าเบลล์อาจจะเป็นคนที่จะมาช่วยลบล้างคำสาปได้ ลูมิแอร์และมิสซิสพ็อตพยายามแนะนำเจ้าชายอสูรต่างๆ ในการทำตัว แต่สุดท้ายเบลล์ก็ไม่ยอมมากินข้าว อสูรบุกไปหน้าห้องของเธอแต่เธอบอกว่าไม่หิว เหล่าคนใช้พยายามบอกให้เขาพูดจานุ่มนวลอ่อนโยนกับเธอ แต่เบลล์ก็ไม่ยอม เจ้าชายอสูรโมโหมาก บอกว่าถ้าเธอไม่กินก็ไม่ต้องกินตลอดไป เขาใช้กระจกวิเศษมองดูเบลล์แล้วพบว่าเธอไม่ได้สนใจเขาเลย เขาเป็นแค่อสูรและรู้สึกสิ้นหวัง
เบลล์ได้แอบหนีออกมาจากห้องและได้ไปที่ห้องครัว เบลล์หิวแล้ว เหล่าคนรับใช้ได้เสิร์ฟอาหารให้เธอพร้อมด้วยการแสดงที่อลังการ
เบลล์รู้สึกตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจมาก เธออยากเดินชมทั่วปราสาท ค็อกเวิร์ทได้เป็นคนทำทางเธอและแนะนำส่วนต่างๆ เบลล์ได้เดินไปที่ปีกตะวันตกและมีความสงสัยว่าเจ้าชายอสูรซ่อนอะไรไว้ที่นี่ เธอพยายามจะขึ้นไป โดยหลอกล่อให้เหล่าคนใช้ไปที่ห้องหนังสือ ที่ปีกตะวันตกเธอได้พบกับดอกกุหลาบวิเศษ เจ้าชายอสูรมาพบเข้าแล้วถามเธอว่าเข้ามาทำอะไรที่นี่ เขาโมโหเกรี้ยวกราดทำลายข้าวของและไล่เบลล์ออกไป
เบลล์ไม่สามารถทนอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว เธอได้หนีออกจากปราสาท และพบกับฝูงหมาป่าที่คอยตามล่า อสูรร้ายออกมากขัดขวางพวกหมาป่าและเขาได้ช่วยเธอไว้ได้สำเร็จ แต่เขาก็อ่อนล้าและได้รับบาดเจ็บจนสลบไป เบลล์ช่วยเจ้าชายอสูรและพาเขากลับไปที่ปราสาทและช่วยทำแผลให้เขา เธอกล่าวขอบคุณอสูรที่ได้ช่วยชีวิตเธอไว้
ที่หมู่บ้านกัสตองวางแผนที่จะจับมอริซเข้าโรงพยาบาลเพราะทุกคนเข้าใจว่าเขาสติไม่สมประกอบ และเขาจะบังคับให้เบลล์แต่งงานกับเขาและพ่อของเธอถึงจะเป็นอิสระ แต่เมื่อพวกเขาไปถึงที่บ้านของมอริซกลับไปพบใคร เพราะมอริซได้ออกจากบ้านไปแล้วเพื่อหาหนทางที่จะช่วยเบลล์ออกมาจากปราสาท
เจ้าชายอสูรและเบลล์ได้เริ่มมีช่วงเวลาที่ดีๆ ต่อกัน เขาได้พาเบลล์ที่ที่ห้องหนังสือสุดอลังการและเธอชอบมาก ทั้งสองคนร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน เจ้าชายอสูรได้กินอาหารโดยใช้ปากแบบพวกสัตว์ เมื่อเธอมองเขาเขาจึงรู้ตัวและพยายามจะทานอาหารแบบคนปกติ เขาทั้งสองคนเริ่มมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ในคืนนั้นเจ้าชายอสูรตั้งใจจะสารภาพรักกับเบลล์ เธอมาในชุดราตรีสีเหลืองสวยงามสะดุดตา เขาทั้งสองได้ทานอาหารด้วยกันในบรรยากาศโรแมนติก เบลล์ได้ชวนเจ้าชายอสูรไปเต้นรำด้วยกันอย่างมีความสุข
เจ้าชายอสูรถามเบลล์ว่าอยู่ที่ปราสาทนี้มีความสุขมั้ย เธอได้ตอบว่ามีความสุขแต่ว่าเธออยากพบพ่อของเธออีกครั้งนึง เจ้าอสูรได้ให้เบลล์ใช้กระจกวิเศษเพื่อจะได้มองดูพ่อของเธอได้ เธอเห็นพ่อของเธอป่วยและสลบอยู่ภายในป่า เจ้าชายอสูรตัดใจปล่อยให้เบลล์ไปหาพ่อของเธอและเขาได้มอบกระจกวิเศษไว้ให้กับเธอ เพื่อที่เธอจะได้ส่องมาที่นี่บ้างและจำเขาได้ เขาปล่อยเธอไปเพราะเขารักเธอ
เบลล์และฟิลลิปได้ออกไปนอกปราสาทและได้พบมอริซสลบอยู่ในป่า เธอได้พาพ่อของเธอกลับมาที่บ้าน ชิปลูกชายของมิสซิสพ็อตได้ตามเบลล์กลับมาที่บ้านด้วย พวกกัสตองมาที่หน้าบ้านของพวกเขาเพื่อที่จะมาจับมอริซตามที่วางแผนไว้ กัสตองยื่นข้อเสนอให้เบลล์แต่งงานกับเขาและเขาจะช่วยพูดให้ชาวเมืองปล่อยมอริซไป เบลล์ใช้กระจกวิเศษทำให้เห็นภาพของอสูรและพยายามให้ทุกคนเชื่อว่าอสูรมีตัวตนจริงแต่เขาไม่ได้ดุร้ายและเขาเป็นเพื่อนของเธอ แต่กัสตองเป่าหูทุกคนว่าอสูรนั้นชั่วร้ายและจะมาทำร้ายคนในหมู่บ้าน เขารวมพลคนในหมู่บ้านเพื่อที่จะไปจัดการกับอสูร เขาจับเบลล์กับมอริซขังไว้เพื่อที่จะได้ไม่มาขัดขวางในการกำจัดอสูร
พวกกัสตองได้บุกมาที่ปราสาท พวกคนใช้ได้ช่วยกันต่อสู้ ชิปได้ช่วยให้เบลล์และมอริซหนีออกมาได้โดยใช้เครื่องสับไม้ พวกเขารีบไปที่ปราสาท พวกคนใช้ได้ช่วยกันต่อสู่จนขับไล่พวกชาวบ้านไปได้สำเร็จ แต่กัสตองได้แอบขึ้นไปที่ห้องของเจ้าชายอสูรและยิงเขาด้วยลูกธนู เจ้าชายอสูรไม่โต้ตอบใดๆ กัสตองจะตีเขาด้วยไม้แต่เมื่อเขาได้เห็นเบลล์ที่หน้าปราสาททำให้เขาฮึดสู้อีกครั้ง อสูรชนะกัสตองและกัสตองขอร้องให้ไว้ชีวิตเขาและเขาจะยอมทุกอย่าง เจ้าชายอสูรปล่อยตัวเขาและบอกให้เขาไปให้พ้น
เจ้าชายอสูรไปหาเบลล์และดีใจที่เธอกลับมา แต่กัสตองหักหลังเขาและแทงอสูรด้วยมีดจากด้านหลังแต่นั่นก็ทำให้เขาเสียหลังตกลงไปในหุบเหวข้างปราสาท เบลล์ได้ช่วยจับเจ้าชายอสูรไว้ได้ทัน แต่เขาก็บาดเจ็บมาก และหมดสติไป เบลล์ร้องไห้เสียใจมาก และได้พูดว่าเธอเองก็รักเจ้าชายอสูรเหมือนกัน กลีบกุหลาบสุดท้ายได้ร่วงหล่นและปาฏิหาริย์ได้เกินขึ้น อสูรร้ายได้กลับกลายร่างเป็นเจ้าชายรูปงามอีกครั้ง และพวกเขาได้จุมพิตกัน เวทมนต์ทั้งหมดได้เสื่อมคลาย ปราสาทและเหล่าบรรดาคนรับใช้ได้กลับคืนสู่สภาพปกติ และพวกเขาก็อยู่กันอย่างมีความสุข
ตัวละครในเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรมีใครกันบ้าง?
เบลล์ Belle หญิงสาวโฉมงามผู้มีจิตใจดี
เบลล์ Belle เป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมงามและจิตใจดี เธอเป็นลูกสาวของมอริซนักประดิษฐ์ ชาวเมืองมองว่าเป็นคนประหลาดเพราะความรักอิสระของเธอ เธอยังเป็นคนชอบอ่านหนังสืออย่างมาก ประเภทของหนังสือที่เธอชื่นชอบก็คือแนวแฟนตาซีและการผจญภัย ความหลงใหลในเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ของเบลล์ประกอบกับสถานะที่ถูกขับไล่ทำให้เธอโหยหาชีวิตแห่งการผจญภัยภายนอกหมู่บ้าน และเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นกับเธอเมื่อเธอต้องถูกกักขังโดยอสูรร้ายเพื่อช่วยชีวิตพ่อของเธอ
เบลล์มีความเฉลียวฉลาดอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากเธอชอบอ่านหนังสือ ซึ่งทำให้เธอรู้คำศัพท์ที่สูงขึ้น มีจินตนาการที่กระตือรือร้น และใจที่เปิดกว้าง เธอมีความมั่นใจและเปิดเผย ตรงไปตรงมาในความคิดเห็นของเธอ และไม่ค่อยชอบถูกบอกว่าต้องทำอะไร อย่างไรก็ตามเธอไม่มีเพื่อนมากนัก ความเฉลียวฉลาด และทัศนคติที่มีอิสระของเธอ ทำให้เธอโดดเด่นจากเพื่อนในเมืองที่มองว่าเธอเป็นคนแปลกลับหลังความงามของเธอ เบลล์ดูไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเธอหรือคนอื่น ๆ และสามารถมองสิ่งที่ปรากฏในอดีตให้เป็นบุคลิกของพวกเขาได้ นี่คือวิธีที่เบลล์สามารถทำลายคำสาปของอสูรร้าย และนำความรักและเสียงหัวเราะมาสู่ปราสาท
เบลล์เป็นที่รู้จักไปทั่วหมู่บ้านในเรื่องความงามของเธอ โดยมีชาวบ้านคนหนึ่งให้ความเห็นว่ามันไม่มีคนอื่นเทียบได้ แต่ถึงเธอจะรู้ แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรไร้สาระหรือกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของเธอ เธอตระหนักว่าเพื่อนในชนบทคิดว่าเธอ “แปลก” และ “แปลกประหลาด” เบลล์ให้ความสำคัญน้อยมากและไม่กังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธอ เธอมีผมสีน้ำตาลยาว ส่วนใหญ่มักมัดรวบเป็นหางม้า ผูกผมด้วยริบบิ้นสีน้ำเงิน และมีดวงตาสีน้ำตาลเฮเซลที่น่าหลงใหลริมฝีปากสีชมพู แก้มสีดอกกุหลาบ ใบหน้ารูปหัวใจ และเธอยังมีปอยผมที่หลุดจากหางม้าตลอดเวลา ซึ่งมันจะตกลงมาตรงหน้าของเธอ มักจะเห็นเธอแปรงผมกลับเข้าที่เมื่อรู้สึกประหม่าหรือพยายามทำตัวสุภาพ
Fun Fact เกี่ยวกับเบลล์ใน Beauty and the Beast
- ชื่อของเบลล์ Belle แปลว่า “สวย” ในภาษาฝรังเศส
- การเคลื่อนไหวของเบลล์มีความสง่างาม นี่เป็นไปตามคำขอร้องของผู้เขียนและโปรดิวเซอร์ของ Beauty and the Beast ซึ่งพวกเขาศึกษาการเคลื่อนไหวของนักบัลเล่ต์ในระหว่างที่พัฒนาตัวละครของเบลล์
- เบลล์เป็นเจ้าหญิงดิสนีย์เพียงคนเดียวที่ไม่ได้ร้องเพลงธีมหลักของ Beauty and the Beast ในภาพยนตร์
- เบลล์เป็นตัวละครหลักเพียงคนเดียวในหมู่บ้านของเธอที่สวมชุดสีน้ำเงิน อนิเมเตอร์ต้องการเน้นให้เห็นว่าเธอดูเหมือนอยู่นอกสถานที่ ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับตู้เสื้อผ้าของเธอ ทำให้แน่ใจว่าเบลล์จะเป็นสมาชิกคนเดียวของเมืองที่สวมชุดสีฟ้า ในขณะที่ชาวเมืองอื่น ๆ เลือกใช้สีที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติมากกว่า เช่น แดง เขียว ส้ม เทา และน้ำตาล
เจ้าชายอสูร Beast เจ้าชายที่ถูกสาปให้เป็นอสูรสัตว์ร้าย
เจ้าชายอสูร หรือที่ถูกเรียกว่า Beast เขาเป็นเจ้าชายโดยกำเนิดแต่ได้ถูกสาปแช่งโดยแม่มดลึกลับเพื่อเป็นการลงโทษสำหรับความเห็นแก่ตัวและความโหดร้ายของเขา เพียงแค่เขารู้จักการรักผู้อื่นและได้รับความรักตอนแทนกลับมา เขาก็จะถูกปลดปล่อยจากมนต์สะกด แต่หากเขาทำไม่ได้เขาก็จะต้องกลายเป็นอสูรร้ายไปตลอดกาล
เจ้าชายในร่างอสูรร้ายนั้นมีความรู้สึกและสามารถพูดได้ แต่เดิมดูเหมือนเขาจะเป็นคนน่ารังเกียจ เอาแต่ใจ เห็นแก่ตัว และอารมณ์ร้อน ดูไม่เป็นมิตรแม้แต่กับคนรับใช้ของเขาเอง แต่เขาก็ยังมีมุมมองที่ขมขื่นในชีวิตของเขา และรู้สึกหงุดหงิดอย่างอย่างดายเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่เขาคิด แต่เนื่องจากเค้าได้รับการเลี้ยงดูมาในฐานะเจ้าชาย ทำให้เขามีสิทธิ์พิเศษต่างๆ ซึ่งมันทำให้เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวและไม่ต้องเกรงใจใคร ซึ่งมันทำให้เขาถูกสาปในที่สุดหลังจากที่เขาปฏิเสธหญิงแก่ขอทาน ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมันยิ่งทำให้เจ้าอสูรมีนิสัยเจ้าอารมณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคงและอับอาย เพราะการกระทำในอดีตของเขา มันเป็นสิ่งที่เขาต้องจ่าย
แต่ถึงแม้เจ้าชายอสูรจะมีรูปลักษ์ที่น่าเกลียดแต่เขาก็ยังรักษาความเป็นมนุษย์ของเขาไว้ได้ แม้ว่าเขาต้องการที่จะทำลายคำสาป แต่ในร่างสัตว์ร้ายนี้ทำให้เขาไม่มั่นใจอย่างแท้จริงว่าเขาจะได้กลับเป็นมนุษย์อีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลายคนจำไม่ได้ว่าเขาเคยเป็นมนุษย์มาก่อน เขารู้สึกอับอายกับลักษณะที่น่ากลัวของตัวเอง มันเป็นสิ่งเตือนใจทั้งสิ่งที่เขาจะทำและสิ่งที่เขากลายเป็น ความอัปยศของเขาถือเป็นฐานที่มั่น โดยที่บ่อยครั้งสิ่งแรกที่มักจะทำให้อารมณ์เสียก็คือเมื่อคนอื่นตอบสนองต่อรูปลักษณ์ของเขา หรือสัญชาตญาณที่ไร้มนุษยธรรมของเขา กรณีเหล่านี้ก่อให้เกิดวงจรการตอบสนองในตัวเอง ซึ่งสัตว์เดรัจฉานจะตอบสนองด้วยพฤติกรรมที่ชั่วร้ายเพราะเขาถูกมองว่าเป็นสัตว์ร้าย แม้จะดูโกรธเกรี้ยวเมื่อเรื่องนี้กลายเป็นประเด็น แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเขาอาจรู้สึกละอายต่อพฤติกรรมของเขา ในภายหลังเบลล์ทำให้เขารู้สึกขวัญเสีย เพราะเชื่อว่าเธอจะเห็นเขาเป็นเพียงสัตว์ประหลาดเท่านั้น และต่อมาเมื่ออารมณ์ของเขาดีขึ้นจนทำให้เบลล์ตกใจโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเพียงแค่รองรับความสงสัยของเขาเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงช่วยชีวิตเธอในภายหลังเพื่อเป็นการขอโทษสำหรับพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของเขา
เมื่อเจ้าชายอสูรเริ่มดูแลเบลล์หลังจากช่วยเธอจากฝูงหมาป่าแล้ว เขาก็เปลี่ยนจากความโหดเหี้ยมและการเป็นคนเจ้าอารมณ์ กลายเป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนมากขึ้น เขายังพยายามที่จะกลายเป็นมนุษย์อีกครั้งเพื่อเห็นแก่เบลล์ เขาเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร และการให้อาหารนก แม้จะมีกิริยามารยาทเป็นสัตว์เดรัจฉาน ในทางกลับกัน การที่เบลล์ยอมรับเขาแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอก จะเริ่มแสดงให้เห็นถึงด้านบวกของเขามากขึ้น และเขาก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว การเรียนรู้ที่จะดูแลเบลล์ยังเผยให้เห็นด้านที่ภักดีต่อเขา ในขณะที่เขาเต็มใจที่จะให้ทุกอย่างเพื่อปกป้องเบลล์ และทำให้เธอมีความสุขแม้ว่ามันจะหมายถึงการเสียสละความสุขของตัวเองโดยปล่อยให้เธอทิ้งเขาไป ก่อนที่เธอจะกลับมา ความรักของเขาทั้งสองได้ทำลายคำสาปลงได้
Fun Fact เกี่ยวกับเจ้าชายอสูรในเรื่อง Beauty and the Beast
- แม้จะไม่ไดระบุอายุอย่างเป็นทางการของเจ้าชายอสูร แต่ก็มีระบุอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบจะบานจนถึงปีที่ 21 และดอกกุหลาบก็เริ่มจะเหี่ยวเฉาลงตามเวลาที่เบลล์มาที่ปราสาท ก็แสดงให้เห็นได้ว่าขณะนั้นเขามีอายุได้ 20 ปี
- เนื่องจากเวลาผ่านเลยไปเป็นเวลาประมาณ 10 ปี มันบ่งบอกได้ว่าเจ้าชายถูกสาปเมื่อเขาอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น
- The Beast เจ้าชายอสูร เป็นหนึ่งในตัวละครที่คาดเดาไม่ได้มากที่สุดของดิสนีย์ เพราะเมื่อมองแวบแรกเขาเป็นสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย แต่เบื้องหลังใบหน้าที่น่ากลัวนั้นเป็นหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรัก ซึ่งเขาแสดงต่อเบลล์ในตอนท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้
- ในระหว่างการต่อสู้กับกัสตอง เจ้าชายอสูรพูดกับเขาเพียงแค่สองคำคือ “ออกไป”
- ตัวละครอสูรนี้ได้มีการศึกษาและสังเกตสัตว์หลายชนิดในระหว่างการพัฒนาตัวละคร เช่น วิลเดอบีสต์ หมี สิงโต และหมาป่า
มอริซ Maurice พ่อของเบลล์
มอริซ Maurice เป็นนักประดิษฐ์ที่แปลกประหลาด เขาเป็นคนถ่อมตัวและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในฝรั่งเศสกับลูกสาวของเขาเบลล์และเขามีม้าคู่ใจอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่าฟิลลิป มอริซหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถฟื้นฟูชีวิตครอบครัวของเขาให้ดีขึ้น เขามักทำงานอย่างหนักเป็นประจำอยู่ในห้องใต้ดิน วิจัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ แม้ว่าโดยปกติแล้วเขามักจะพบกับความล้มเหลว แต่ความฝันของเขาและการสนับสนุนจากเบลล์เป็นแรงกระตุ้นให้เขาก้าวไปข้างหน้าทุกครั้ง
มอริซเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งหมู่บ้านว่า มอริซเฒ่าบ้า หรือคนเพี้ยน เนื่องจากเอกลักษณ์ของสิ่งประดิษฐ์ของเขา เขาจึงมักถูกมองอย่างดูถูกและคิดว่าจิตใจไม่ปกติ แม้ว่าเขาจะเป็นอันตรายพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่บ้าน แต่ชาวเมืองก็ค่อนข้างเยาะเย้ยเขาและหัวเราะเยาะเย้ย เบลล์ดูแลมอริซค่อนข้างแหวกแนวและได้รับการตัดสินจากชาวบ้านในรูปแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตามมอริซเพิกเฉยต่อความคิดเห็นของผู้อื่น เขาให้ความสำคัญเพียงแค่กับงานและครอบครัว
Fun Fact เกี่ยวกับมอริซใน Beauty and the Beast
- ในนิทานดั้งเดิม มอริซเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยและไม่ใช่นักประดิษฐ์ เขาย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัดในขณะที่เขาสูญเสียทุกอย่างไปกับเรือที่สูญหายไปในทะเล และพายุสายฟ้าได้เผาไหม้คฤหาสน์ของเขา แต่เขาก็รับมือกับความทุกข์ยากอย่างเต็มที่ในขณะที่เขาพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างโชคชะตาของครอบครัวขึ้นมาใหม่ ความแตกต่างระหว่างนิทานดั้งเดิมกับภาพยนตร์ Beauty and the Beast (1991) นี้คือ ภรรยาของมอริซยังอยู่และเขามีลูกทั้งหมด 5 คน ซึ่งเบลล์หรือบิวตี้เป็นคนสุดท้องและใกล้ชิดกับพ่อของเธอมากที่สุด
- ตลอดทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้จะเห็นได้ว่าถุงเท้าของมอริซสองข้างไม่เหมือนกัน ข้างหนึ่งเป็นลายอีกข้างหนึ่งสีทึบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงความไม่ปกติของเขา
กัสตอง Gaston นายพรานผู้หมายปองเบลล์
กัสตอง Gaston เขาเป็นพรานป่านักล่าที่หยิ่งผยองและมีความมุ่นมั่นอย่างละโมบที่จะแต่งงานกับเบลล์ให้ได้ แม้จะต้องบังคับเธอก็ตามหากจำเป็น สิ่งนี้ครอบงำจิตใจของเขาเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนเหี้ยมโหด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาค้นพบว่าเขาไม่ใช่ที่รักของเบลล์แต่เป็นอสูรร้าย
กัสตองนั้นแข็งแกร่งและหล่อเหลา และเขาใช้ประโยชน์จากลักษณะเหล่านี้อย่างเต็มที่ แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าเขาคิดว่าตัวเองดีที่สุดหรือไม่ แต่เขาก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากพวกชาวบ้าน และสิ่งนี้ทำให้กัสตองเกิดอัตตามหาศาล เขาเป็นคนหลงตัวเองและคิดว่าเขาอยู่เหนือกว่าทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา เขาเป็นคนหุนหันพลันแล่นและหยิ่งพยองโดยจะเห็นได้จากการที่เขาจัดงานแต่งงานของเขากับเบลล์ก่อนที่เขาจะขอเบลล์แต่งงานด้วยซ้ำ ด้วยความคาดหวังว่าเธอจะยอมเป็นภรรยาของเขาเพราะเขาคิดว่าเบลล์รักเขา แต่สุดท้ายเขาก็ถูกเบลล์ปฏิเสธ
และด้วยความเชื่อมั่นว่าเขามีพลังมากพอที่จะเอาชนะอสูรร้ายที่ใหญ่กว่าและแข็งแกร่งกว่าตัวเองได้ กัสตองถึงกับล้อเลียนเจ้าชายอสูรเพื่อต้องการให้เขาต่อสู้กลับ ในขณะที่เขาต้องากรพิสูจน์ว่าเขาสามารถฆ่าอสูรได้ในการต่อสู้อย่างยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ความเย่อหยิ่งของเขทำให้เขาประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป และเมื่อเขาตระหนักได้ว่าชีวิตของเขาอยู่บนเส้นดายความเป็นความตายเขาก็ทำทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตรอด เขาร้องขอชีวิตจากเจ้าชายอสูร เจ้าชายได้ไล่เขาไป แต่สุดท้ายด้วยเขาก็หักหลัง เขาทำร้ายเจ้าชายอสูรจากด้านหลัง และได้ตกลงไปในเหวลึก
Fun Fact เกี่ยวกับกัสตองในเรื่อง Beauty and the Beast
- เมื่อเข้าโจมตีปราสาทของเจ้าชายอสูร เสื้อคลุมของกัสตองได้หายไป
- ในเนื้อเรื่องดั้งเดิม เบลล์สามารถค้นหาอสูรร้ายที่กำลังจะตายจากบาดแผล แต่สิ่งนี้เปลี่ยนไปในภาพยนตร์ดิสนีย์โดยกัสตองเป็นผู้แทงเจ้าชายอสูรและเขาได้ตายจากบาดแผลนั้น
- นามสกุลเดิมของกัสตองคือ LeGume ซึ่งเป็นการแสดงความเข้าใจและมุมมองของผู้หญิงแบบสมองถั่ว
- กัสตองเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับเจ้าชายอสูร ในขณะที่เจ้าชายอสูรเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดตามรูปลักษณ์ของเขา แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นผู้บริสุทธิ์และดูแลเบลล์อย่างแท้จริง ในทางกลับกันกัสตองที่ภายนอกดูหล่อเหลาและได้รับการยกย่องจากคนทั่วไปนั้น เป็นคนที่เห็นแก่ตัวและต้องการที่จะแต่งงานกับเบลล์เพราะความงามของเธอเท่านั้น
ดูตัวอย่างเรื่องโฉมงามกันเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast
www.rinrinworld.com/home/โฉมงามกับเจ้าชายอสูร
ภาพประกอบ: pinterest
เนื้อหาบางส่วน: Beauty and the Beast fandom
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Shopee: https://shopee.co.th/rinrinworld
– Facebook: https://www.facebook.com/rinrinworldshop/
– Website: https://www.rinrinworld.com/